บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน)ตอนที่33
  • ชื่อ: บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน)ตอนที่33
  • นักเขียน:
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 11:49:40 2-10-1403

บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน)ตอนที่33


สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม
ภาคที่ 5
เดินทางมุ่งหน้าสุ่เมืองนะญัฟและกัรบะลา
ช่วงเวลาดังกล่าวนั้นได้มีคำสั่งจากลอนดอน ให้ข้าพเจ้าเดินทางไปยังเมืองนะญัฟและกัรบะลาซึ่งทั้งสองเมืองนั้นถือว่าเป็นศูนย์กลางและศูนย์รวมบรรดาอุลามาและมุสลิมชาวชีอะฮ์ เมืองทั้งสองนั้นมีประวัติความเป็นมาในทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
 ประวัติของเมืองนะญัฟได้เริ่มขึ้นเมื่อ อะลี บินอะบีฏอลิบ ผู้เป็นคอลีฟะฮ์คนที่สี่ของชาวซุนนะฮ์ และเป็นอีหม่ามคนแรกของชาวชีอะฮ์ ถูกฝัง ณ สถานที่แห่งนี้
 และใกล้ๆ เมืองนี้มีอีกเมืองหนึ่งที่ห่างออกไปสักประมาณ 1 ฟัรซัค ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ชื่อว่า เมือง กูฟะห์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของอะลี หลังจากที่เขาถูกสังหารแล้ว ลูกชายทั้งสองของเขา คือ ฮาซันและฮุเซน ได้นำเอาศพไปฝังนอกเมือง กูฟะห์ ซึ่งปัจจุบันมีชื่อว่า เมือง นะญัฟ
 นับจากนั้นเป็นต้นมาเมืองนะญัฟก็ได้กลายเป็นเมืองที่รุ่งโรจน์ แต่เมืองกูฟะห์นั้นกลับเป็นเมืองที่ทรุดโทรม เพราะเมืองนะญัฟกลายเป็นศูนย์กลางของอุลามาชีอะฮ์ ดังนั้นจึงได้มีการปลูกสร้างอาคารบ้านเรือน  ตลาด และโรงเรียนสอนวิชาการแห่งศาสนา ซึ่งปัจจุบันนี้ เมืองนะญัฟก็ยังเป็นศูนย์กลางของอุลามาชีอะฮ์อีกด้วย
ฝ่ายคอลีฟะฮ์อุษมานียะฮ์ ก็ได้ให้ความเคารพต่อเมืองนี้ อันเพราะมีความหวาดกลัวต่อพวกเขาด้วยกับเหตุผลประการดังนี้ -:
1.เพราะรัฐบาลชีอะฮ์ในอิหร่านให้การสนับสนุนพวกเขา ซึ่งหากคอลีฟะฮ์มิให้เกียรติและเคารพสิทธิต่อพวกเขาแล้ว มันจะก่อให้เกิดความบาดหมางขึ้นระหว่างทั้ง 2 รัฐบาล  ดีไม่ดีอาจจะนำมาซึ่งศึกสงครามก็เป็นได้
2.ส่วนมากบรรดาเผ่าพันธุ์ใหญ่ๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่รอบๆ นอกเมืองนะญัฟนั้น มีอาวุธที่เพียบพร้อมและยังเป็นผู้ให้การสนับสนุนบรรดาอุลามาแห่งเมืองนะญัฟอีกด้วย ถึงแม้นว่าอาวุธต่างๆ ที่พวกเขามีอยู่จะไม่ทันสมัยก็ตามแต่การเผชิญหน้ากันซึ่งๆ หน้า ระหว่างราชวงศ์อุษมานียะฮ์กับบรรดาอุลามาในเชิงลักษณ์เช่นนี้ เสมือนเป็นการชักศึกสงครามนองเลือดอย่างไม่จำเป็น เพราะว่า รัฐบาลอุษมานียะฮ์ ถือว่า การกำจัดบรรดาอุลามานั้นเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น จึงต้องปล่อยให้พวกเขาอยู่ตามอัธยาศัย
3.บรรดาอุลามาเหล่านี้ คือ มัรเญียอฺตักลีด ของมุสลิมชาวชีอะฮ์ทั่วโลกไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในประเทศ อินเดีย แอฟริกา และประเทศอิสลามอื่นๆ ก็ตาม ดังนั้นหากทางคอลีฟะฮ์อุษมานียะฮ์ได้ดูหมิ่นยังอุลามาเหล่านี้แล้ว เสมือนกับว่า เขาได้สร้างศัตรูภายในตัวกับบรรดาชาวชีอะฮ์ และจะทำให้บรรดาชีอะฮ์จะลุกขึ้นต่อต้านและต่อสู้กับพวกเขาอย่างแน่นอน
...............................โปรดติดตามตอนต่อไป
สถาบันศึกษาศาสนา อัล-มะฮฺดียะห์