ศาสนากับโลก (ตอนที่ 14) ความยุติธรรมในสังคมและจริยธรรม
  • ชื่อ: ศาสนากับโลก (ตอนที่ 14) ความยุติธรรมในสังคมและจริยธรรม
  • นักเขียน: ชะฮีดมุเฏาะฮะรี
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 22:41:45 14-9-1403

คราวนี้ ขอให้เราดูว่า ระบบสังคมที่แพร่หลายอยู่นี้ เป็นมูลเหตุแห่งการทุจริตจริยธรรมและรบกวนจิตวิญญาณอย่างไร จริยธรรมที่ดีและเลว ก็เหมือนสิ่งอื่นๆ ในโลกนั่นแหละ ย่อมมีมูลเหตุ ทั้งจริยธรรมที่ดีและจริยธรรมที่ไม่ดีต่างก็ไม่เคยปรากฏโดยไม่มีสาเหตุ เบ้าหลอมและธรรมชาติของบุคคลเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพสภาพและข้อแนะนำของสิ่งแวดล้อมนั้นมีผล และอย่างหนึ่งที่มีผลอย่างแน่นอนต่อการทุจริตในด้านจริยธรรมของบุคคลและทาจิตวิญญาณของเขาเป็นพิษ ก็คือ การสูญเสียและความรู้สึกว่าถูกหลอกลวง ความอิจฉามุ่งร้ายเจตนาร้าย ความเป็นศัตรูและความประสงค์ร้าย ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากที่นี่เอง


 

ข้อยกเว้น

 

แน่ละต้องมีข้อยกเว้นอยู่ มีคนที่ขาดแคลนอยู่ซึ่งการกระทำที่อยุติธรรมไม่มีผลต่อเขา อย่างไรก็ตาม คนเช่นนั้นมีจุดเด่นอยู่ คือ จิตวิญญาณของเขามีภูมิคุ้มกันต่อความชั่วดังกล่าว พลังแห่งศรัทธาของพวกเขามีอยู่มากเสียจนความชั่วร้ายเช่นนั้นถูกยับยั้งไว้ คนพิเศษเช่นนั้นอยู่ในระดับเหนือกว่าระดับความคิดของคนทั่วไป – ขอให้เรายกตัวอย่าง :

ขอให้นึกถึงครอบครัวหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่และลูก ๆ ในบ้านของครอบครัวนี้ อาหาร ผลไม้ ของหวานและเสื้อผ้าทั้งหมดถูกแบ่งกันในครอบครัว ความคิด ทรรศนะ

และความรู้สึกของลูกในโอกาสเช่นนั้นย่อมไม่เหมือนกับความคิดทรรศนะ และความรู้สึกของพ่อแม่ พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน พวกเขามีอยู่สองระดับ

ประการแรก ความรู้สึกที่ลูกมีต่อกันและกัน : เมื่อไรก็ตามที่ลูกคนหนึ่งเห็นว่าส่วนของอาหาร ผลไม้ ของหวานหรือเสื้อผ้าของตนมีน้อยกว่าคนอื่น ๆ เขาก็จะเสียใจ จะขัดเคืองจะคร่ำควญและเพราะว่าพวกเขามีความรู้สึกว่าขาดทุนและตกอยู่ใต้ความอยุติธรรม เขาก็จะเกิดความตั้งใจที่จะแก้แค้นขึ้นมา ดังนั้นพ่อแม่ที่ต้องการให้ลูกมีความสุข และมีสุขภาพกายและจิตใจดีจึงพบว่าเป็นเรื่องจาเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงจากรูปแบบแห่งการเลือที่รักมักที่ชังเสียตั้งแต่ต้น
 

 

การเลือกที่รักมักที่ชังเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้ง เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความอิจฉามุ่งร้าย และเมล็ดพันธุ์แห่งการแก้แค้น การเลือกที่รักมักที่ชังกลายเป็นมูลเหตุของความกดดัน ความระทมทุกข์ และไร้ความสุขในจิตใจของลูกที่ต้องสูญเสีย และเด็กที่เคยเป็นที่ชื่นชมก็จะกลายเป็นเด็กเห็นแก่ตัว ไม่ไว้วางใจคนอื่น มีเจตนารมณ์ที่อ่อนแอ ก่อความผิดอย่างรวดเร็วจนอาจเรียกได้ว่าเสียคน พ่อแม่ส่วนมากเมื่อลูกเกิดไม่สบายขึ้นมาก็จะพาไปหาหมอแต่พวกเขาให้ความสนใมจแต่เพียงเล็กน้อยต่อสุขภาพและความสมบูรณ์แห่งจิตใจของลูกๆ ของพวกเขา สิ่งเหล่านี้พวกเขาคิดว่าไม่สำคัญ ในขณะที่ความสำคัญของสุขภาพจิตนั้นมีไม่น้อยไปกว่าสุขภาพกายเลย ตามความจริงแล้วมันสำคัญกว่ามากมายนัก

 

ประเด็น ก็คือว่า เพราะเหตุว่าเด็กคิดในระดับหนึ่ง การขาดความสัมพันธ์แก่กันและกัน ย่อมมีผลร้ายแก่ทั้งสองผ่าย อย่างไรก็ตาม พ่อแม่มีความคิดและเหตุผลอยู่ในระดับสูง ได้คิดด้วยแนวทางที่แตกต่างกันไปและมีรูปแบบแห่งความกรุณาเป็นพิเศษ พ่อแม่เหล่านั้นมิได้เดือดร้อนใจจากการสูญเสียชนิดนี้ ไม่ว่าเขาจะได้รับอาหารหรือผลไม้หรือของหวานน้อยกว่าลูกของเขาหรือไม่ได้รับเลยก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่มีความสุข เขาไม่รู้สึกคับแค้นใจอะไร

 

ในสังคมนี้ก็เช่นเดียวกัน บุคคลพิเศษผู้ซึ่งเหมือนกับพ่อแม่ของชาติ ไม่ได้รับผลของการสูญเสียอะไรไปในสภาพของการต้องสูญเสีย และความอยุติธรรม คนเหล่านี้ก็เหมือนกับพ่อแม่ทั้งหลายที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสาหรับลูก ๆ ของตนคือต้องการสิ่งดีที่สุดสำหรับชาติของพวกเขา
 

 

ในสงครามอุฮุด ท่านศาสดาผู้บริสุทธิ์ เมื่อถูกศัตรูของท่านขว้างหินใส่หน้าของท่าน และทำให้ท่านฟันหัก ได้ยกมือขึ้นขอพรโดยกล่าวว่า

“โอ้ พระผู้เป็นเจ้า ของทรงนำทางให้ประชาชนของข้าพระองค์(และยกโทษให้พวกเขาเถิด)เพราะว่าแน่แท้พวกเขาเป็นผู้ไม่รู้ ”

ในทำนองเดียวกัน เมื่อพูดถึงสวนผลไม้ฟะดัก ท่านอะลี (อ) ได้กล่าวว่า “กลุ่มหนึ่งโลภอยากจะได้มันอีกกลุ่มใช้มันอย่างเสรี ฉันจะทำอะไรกับฟะดัก

หรือ(ทรัพย์สมบัติ)ได้ยิ่งไปกว่าฟะดักเล่า เมื่อวันพรุ่งนี้เครื่องหมายของตัวตนก็คือหลุมศพ มันคงอยู่อย่างไม่แบ่งแยกในความมืดของมัน ”


เขียนโดย ชะฮีดมุเฏาะฮะรี
แปล จรัญ มะลูลีม