ศึกษาอิมามัต ผ่านหนังสือมนุษย์ 250 ปี โดยอิมามคาเมเนอีย์ 9
มนุษย์ 250 ปี
หมายเลข 73
บทที่ 7 ภาพรวมของประเด็นต่างๆในหนังสือเล่มที่สาม (จบบท)
ความเดิมตอนที่แล้ว
ในหัวข้อนี้ อิมามคาเมเนอีย์ ได้มอบหัวข้อหนึ่งเพื่อให้เราค้นคว้า นั่นคือ การหาคำตอบว่า อะไรคือ สาเหตุที่ทำให้ผู้ปกครองฝ่ายตรงข้ามกับอิมามมะศูม ถึงแสดงท่าทีอาฆาตพยาบาทต่ออิมาม จนถึงกับต้องสั่งใบประหารพวกเขา อิมามคาเมเนอีย์ชี้ว่า สาเหตุหนึ่งคือ ความอิจฉาริษยา เช่น อิจฉา ในเรื่องความรู้ และตักวา แต่ไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้ผู้อธรรมมีความเกลียดชังต่ออิมามอย่างรุนแรงเช่นนี้ สาเหตุที่แท้จริงคือ การแสดงตำแห่งอิมามัตของอิมาม ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์อัลลอฮทรงมอบเป็นความโปรดปรานให้แก่พวกเขา และนั่นคือ เหตุผลที่ทำให้ผู้อธรรม ต้องการทำลายอิมามมะศูม
หัวข้อใหม่ การเคลื่อนไหวแบบแข็งขันดุดันของฝ่ายมิตร
อีกประเด็นที่ควรแก่การศึกษาค้นคว้า คือ การเคลื่อนไหวเชิงแข็งขันดุดันจากมวลมิตรของบรรดาอิมาม(อ)ต่อระบบการปกครอง มีตัวอย่างมากมายของการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ เป็นสิ่งที่สังเกตได้ในตลอดยุคสมัยแห่งอิมามัต เช่น ในยุคของอิมามซัจญาด(อ) ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ความกดดันไปถึงขีดสุดของมัน #ยะฮ์ยา_บิน_อุมมิฏอวีล หนึ่งในสาวกของอิมาม เคยปรากฎตัวในมัสยิดมะดีนะฮ์ เขาได้พูดกับกลุ่มคนและเจ้าหน้าที่รัฐที่ยอมก้มหัวให้ระบบการปกครอง เขาขึ้นไปอ่านโองการที่เป็นคำพูดของศาสดาอิบรอฮีม(อ)ซึ่งครั้งหนึ่งศาสดาอิบรอฮีมเคยพูดกับบรรดาผู้ปฏิเสธว่า
قَدْ كَانَتْ لَكُمْ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ فِي إِبْرَاهِيمَ وَالَّذِينَ مَعَهُ إِذْ قَالُوا لِقَوْمِهِمْ إِنَّا بُرَآءُ مِنْكُمْ وَمِمَّا تَعْبُدُونَ مِنْ دُونِ اللَّهِ كَفَرْنَا بِكُمْ وَبَدَا بَيْنَنَا وَبَيْنَكُمُ الْعَدَاوَةُ وَالْبَغْضَاءُ أَبَدًا حَتَّىٰ تُؤْمِنُوا بِاللَّهِ وَحْدَهُ إِلَّا قَوْلَ إِبْرَاهِيمَ لِأَبِيهِ لَأَسْتَغْفِرَنَّ لَكَ وَمَا أَمْلِكُ لَكَ مِنَ اللَّهِ مِنْ شَيْءٍ ۖ رَبَّنَا عَلَيْكَ تَوَكَّلْنَا وَإِلَيْكَ أَنَبْنَا وَإِلَيْكَ الْمَصِيرُ
“แน่นอนได้มีแบบอย่างอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้วใน (ตัว) อิบรอฮีม และบรรดา (มุอฺมิน) ผู้ที่อยู่ร่วมกับเขา เมื่อพวกเขากล่าวแก่หมู่ชนของพวกเขาว่า แท้จริงพวกเราขอปลีกตัวจากพวกท่านและสิ่งที่พวกท่านเคารพบูชาอื่นจากอัลลอฮฺ เราขอปฏิเสธศรัทธาต่อ (ศาสนาของ) พวกท่าน และการเป็นศัตรูและการเกลียดชังระหว่างพวกเรากับพวกท่านได้ปรากฎขึ้นแล้ว (และจะคงอยู่) ตลอดไปจนกว่าพวกท่านจะศรัทธาต่ออัลลอฮฺองค์เดียว นอกจากคำกล่าวของอิบรอฮีมแก่บิดาของเขา (ที่ว่า) แน่นอนฉันจะขออภัยโทษให้แก่ท่านทั้งๆ ที่ฉันไม่มีอำนาจอันใดจะช่วยท่าน (ให้พ้นจากการลงโทษ) จากอัลลอฮ์ได้ ข้าแต่พระเจ้าของเราแด่พระองค์ท่านเราขอมอบหมายและยังพระองค์ท่านเท่านั้น เราขอลุแก่โทษ และยังพระองค์ท่านเท่านั้นคือการกลับไป” ซูเราะฮ์มุมตะฮีนะฮ์ โองการที่ ๔
เราขอปฏิเสธศรัทธาต่อพวกท่าน และการเป็นศัตรูและการเกลียดชังระหว่างพวกเรากับพวกท่านได้ปรากฎขึ้นแล้ว” (ยะฮยาใช้คำพูดของศาสดาอิบรอฮีม มาแสดงการแตกหักกับฝ่ายผู้ปกครอง)
นอกจากนี้ในกุนาซะฮ์(کُناَسَة)หนึ่งในแขวงของเมืองกูฟะฮ์ เขาก็ได้กล่าวปราศัยด้วยเสียงอันดังก้องกังวาล #ท้วงติง และ วิพากษ์วิจารณ์การเมืองของผู้ปกครองให้มวลชนและกลุ่มชีอะฮ์ฟัง
(ตัวอย่างที่สองศอฮาบะฮ์ของอิมามที่เคลื่อนไหวแข็งขันดุดัน) มุอัลลีย์_บิน_คุนัยซ์ เคยเดินทางไปร่วมพิธีนมาซอีดในทะเลทราย เขาเคยปรากฎตัวในชุดที่ยับเยิน เผ้าผมรุงรัง ใบหน้ามอมแมมหมองคล้ำและดูเศร้าหมอง ทันทีที่คอฏิบขึ้นมิมบัร ชายคนนี้ได้ยกมือทั้งสองข้างของตน และกล่าวขึ้นว่า
اللهم هذا الْمَقامَ لِخُلْفائِكَ، وَأَصْفِيائِكَ وَمَواضِعَ اُمَنائِكَ، الذّي خصصتهم بِها، ابْتَزُّوها
“โอ้อัลลอฮ์ นี่คือ มิมบัร และฐานะของตัวแทนของพระองค์ และบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงเลือกโดยเฉพาะซึ่งมันได้ถูกเขาเหล่านั้นช่วงชิงไปแล้ว”[ริญาลกัชชี,ฟีลมุอัลลีย์ บิน คุนัยซ์/715]
น่าเศร้าที่ศอฮาบะฮ์ผู้สูงส่งท่านนี้ ผู้ที่แม้แต่อิมามศอดิก(อ) #ยังยกย่องชื่นชมและสาปแช่งฆาตกรที่สังหารเขา กลับเป็นบุคคลที่ถูกตั้งข้อสงสัยในความ“ซีเกาะฮ์”(ความน่าเชื่อถือ)ของเขา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะต้นตอของทัศนะเหล่านี้มาจากน้ำมืออันโสมมและการแทรกแซงของตระกูลอับบาซียะฮ์
หัวข้อใหม่ การตักกียะฮ์
อีกประเด็นหนึ่งซึ่งถือว่า มีทั้งความกว้างและความลึก คือ ประเด็นเรื่องการตักกียะฮ์ การจะเข้าใจในเรื่องนี้ จำเป็นต้องพิจารณาดูทุกรีวายัตที่เกี่ยวข้องกับการอำพราง ปกป้อง และการปิดบัง เพื่อให้เข้าใจข้อเรียกร้องของอิมามซึ่งได้นำเสนอไปในหัวข้อและบทก่อนหน้านี้ และเข้าใจว่าทำไมเหล่าผู้ปกครองถึงเลือกใช้พฤติกรรมที่รุนแรงเพื่อรับมือกับข้อเรียงร้องและการเคลื่อนไหวของบรรดาอิมามและสาวก หากคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ก่อน จึงจะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของ ตักกียะฮ์ ได้อย่างถ่องแท้
สิ่งที่ชัดเจนไม่มีข้อคลางแคลงใดๆ คือ #ตักกียะฮ์ไม่ได้หมายถึงการหยุดพยายามไมได้หมายถึงการหยุดทำงาน แต่หมายถึง การอำพราง หมายถึงการปกป้องภารกิจและความพยายาม ซึ่งความนี้คือสิ่งที่เผยให้เห็นเมื่อเราย้อนกลับไปดูรีวายัตทุกรีวายัตอย่างโดยสมบูรณ์
ประเด็นต่างๆเหล่านี้ คือ ส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตของบรรดาอิมาม และแน่นอนมีประเด็นอื่นๆอีกมากที่เกี่ยวข้องกับชีวิตทางการเมืองของพวกเขาเหล่านั้น บ่าวของพระเจ้าผู้นี้ได้เข้าค้นคว้าในประเด็นนี้ไว้อย่างมากมาย แต่ก็น่าเสียดายที่ข้าพเจ้าไม่มีโอกาสรวบรวมและเรียงเนื้อหาทั้งหมดไว้เลย ข้าพเจ้าปรารถนาเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีมุ่งมั่นอุตสาหะมารับงานนี้ไปค้นคว้า และรวมรวมเรื่องราวของพวกเขาต่อ และส่งต่อไปสู่มวลชน เพื่อทำให้บทเรียน แบบอย่างเหล่านี้มาสู่มือเรา ไม่ใช่แค่ให้เป็นเพียงอมตะแห่งความทรงจำ
สรุปประเด็นในตัวบท
อิมามคาเมเนอีย์ เสนออีกสองหัวข้อ เพื่อให้เราศึกษาชีวิตของบรรดาอิมามอย่างมีทิศทาง เรื่องแรก คือ สังเกตการณ์เคลื่อนไหวที่แข็งขันดุดันจากทางฝั่งของศอฮาบะฮ์ และเรื่องที่สองคือ การตักกียะฮ์ โดยคำนึงถึงสภาพการทางสังคมและการเมืองอิสลาม และวิธีการรับรู้ของฝ่ายที่เป็นศัตรูของอิมามมะศูม
อ้างอิง มนุษย์ 250 ปี หน้า 71-72