ศึกษาอิมามัต ผ่านหนังสือมนุษย์ 250 ปี โดยอิมามคาเมเนอีย์ 11
มนุษย์ 250 ปี
หมวดที่ 1 ยุคต้นแห่งอิมามัต
บทที่ 9 ชีวิตและบุคลิกภาพของอมีรุลมุอฺมีนีน อลัยฮิสลาม
หมายเลข 75
ความเดิมตอนที่แล้ว
ช่วงยุคแรกของอิมามัต คือ ช่วงเวลา 25 ปี ที่อมีรุลมุอฺนีนเลือกจะเงียบ เพื่อปกป้องรักษาอิสลาม ข้อยืนยันถูกสรุปในวาทกรรมของท่านในสงครามซิฟฟิน แต่ไม่ได้หมายความว่าการต่อสู้และการยืนหยัดของอิมามอาลี(อ)ถูกเว้นวรรคในช่วงนี้ ตัวของท่านเลือกต่อสู้ในวิธีการอื่นที่ไม่ใช่การทำศึกสงคราม
หัวข้อใหม่ บุคลิกภาพของอิมามอาลี(อ)
บุคลิกภาพของอมีรุลมุอฺมีนีน นับตั้งแต่เสี้ยววินาทีแห่งวิลาดัตจนถึงวาระชะฮาดัต นับเป็นบุคลิคภาพที่ไม่ธรรมดา วิลาดัตของท่านเกิดขึ้นใน “เญาฟ์”[1] ของกะอฺบะฮ์[ภายในกะอฺบะฮ์]ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ใดทั้งที่อยู่ก่อนหน้าท่าน หรือที่จะมาหลังจากท่านอีกเลยจนถึงทุกวันนี้ ชะฮาดัตของท่านเกิดขึ้นในมัสยิด ณ เมียะฮ์รอบแห่งการอิบาดัต และระหว่างสองขณะดังกล่าวนี้[ระหว่างวิลาดัตกับชะฮาดัต] มีชีวิตของอมีรุลมุอฺมีนีนที่เต็มไปด้วยการญิฮาด การอดทนเพื่ออัลลอฮ การมีมะอฺรีฟัต การมีบะซีรัต และการเดินทางสู่เส้นทางแห่งความพึงพอใจของพระผู้เป็นเจ้า
อมีรุลมุอฺมีนีน คือ มนุษย์คนหนึ่ง ผู้ซึ่งตลอด 63 ปีแห่งอายุขัย มี 53 ปีที่ถูกโอบไว้ในอิสลามอย่างเปิดเผย แต่ละห้วงเวลาของท่าน แม้เพียงชั่วขณะอันแสนสั้นก็ไม่เคยก้าวไปข้างหน้าเว้นแต่จะก้าวไปเพื่อทำให้อิสลามเกิดความเข้มแข็งยิ่งขึ้น
ในช่วงวัยเยาว์ อาลี บิน อบีฏอลิบได้รับการอบรมด้วยการอบรมของพระผู้เป็นเจ้าภายใต้อ้อมกอดของศาสดา เมื่ออมีรุลมุอฺมีนีนอายุได้หกปี ศาสดาได้นำท่านมาจากบ้านของอบีฏอลิบสู่บ้านของตน ณ ขณะนั้นเอง อมีรุลมุอฺมีนีนจึงได้อยู่ภายในอ้อมกอดของศาสดาและได้รับการอบรมภายใต้ร่มเงาแห่งการตัรบียัตของท่านศาสดา
ในยามที่วิวรณ์ถูกประทานแก่ศาสดาในขณะที่สถานการณ์ค่อนข้างละเอียดอ่อนยิ่งนัก มีเขาที่อยู่ข้างศาสดาในถ้ำฮิรออฺเสมอ เขาได้ติดตามท่านศาสดา เขาได้เรียนรู้จากศาสดามาโดยตลอดและไม่เคยแยกจากท่านเลย
ในคุตบะฮ์กอซีอะฮ์(قاصعة)[2]ในนะฮ์ญุลบาลาเฆาะท่านได้กล่าวไว้ว่า
وَ لَقَدْ کُنْتُ أَتَّبِعُهُ اتِّبَاعَ الْفَصِیلِ أَثَرَ أُمِّهِ
“ฉันได้ติดตามเขา(ศาสดา)ประหนึ่งลูกอูฐที่ได้ติดตามแม่ของมัน”
ฉันอยู่เคียงข้างและเชื่อมสัมพันธ์กับรอซูลตลอดเวลา เหมือนลูกอูฐที่เดินตามแม่ของมัน
یَرْفَعُ لِی فِی کُلِّ یَوْم مِنْ أَخْلاَقِهِ عَلَماً، وَ یَأْمُرُنِی بِالاْقْتِدَاءِ بِهِ.
“ทุกวันหนึ่งในจริยธรรมของเขาได้เปิดเผยแก่ฉัน และเขาได้สั่งให้ฉันนั้นติดตามเขา”
ทุกวันเขาได้สอนฉันและมอบความรู้ใหม่ให้แก่ฉันด้วยการกระทำของเขาและด้วยจริยธรรมของเขาและเขาได้อบรมฉันโดยขอให้ฉันปฏิบัติในสิ่งเหล่านั้น เขาได้สร้างฉันให้มีบุคลิกภาพเช่นนี้ เขาได้ทำให้ฉันสูงส่งเช่นนี้ เขาได้ทำให้ฉันมีมะละกูตเช่นนี้[3]
وَ لَقَدْ کَانَ یُجَاوِرُ فِی کُلِّ سَنَة بِحِرَاءَ
ทุกปีที่ผ่านไปในถ้ำฮิรออฺ
فَأَرَاهُ، وَ لاَ یَرَاهُ غَیْرِی.
ฉันได้ไปเฝ้าหาเขา และไม่มีใครเห็นเขานอกจากฉัน
وَ لَمْ یَجْمَعْ بَیْتٌ وَاحِدٌ یَوْمَئِذ فِی الاْسْلاَمِ غَیْرَ رَسُولِ اللّهِ ـ صَلَّى اللهُ عَلَیْهِ وَ آلِهِ ـ وَ خَدِیجَةَ وَ أَنَا ثَالِثُهُمَا.
“ณ วันนั้น ไม่มีบ้านแห่งอิสลามหลังใดเลย นอกจาก[บ้านของ]รอซูลุลลอฮ์ (صَلَّى اللهُ عَلَیْهِ وَ آلِهِ)และคอดีญะฮ์ และฉันผู้เป็นคนที่สาม”
ณ วันนั้น มีเพียงบ้านหลังเดียวที่ครอบครัวในบ้านหลังนั้นคือมุสลิม มีเพียงบ้านของเรา มีเพียงศาสดา คอดิญะฮ์ และฉัน
أرَى نُورَ الْوَحْيِ وَ الرِّسَالَةِ وَ أَشُمُّ رِيحَ النُّبُوَّةِ
“ฉันได้เห็นแสงแห่งวิวรณ์และสาส์นนั้น ฉันได้กลิ่นของศาสดา”
ฉันได้เห็นแสงแห่งนะบูวัต ฉันได้สูดดมกลิ่นหอมแห่งนะบูวัตอันเป็นที่พึงใจ
وَ لَقَدْ سَمِعْتُ رَنَّةَ الشَّيْطَانِ حِينَ نَزَلَ الْوَحْيُ عَلَيْهِ
ฉันได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของชัยฏอนขณะที่วิวรณ์นั้นได้ถูกประทานลงมาให้แก่เขา
فَقُلْتُ يَا رَسُولَ اللَّهِ مَا هَذِهِ الرَّنَّةُ
ดังนั้น ฉันจึงกล่าว(ถาม)ว่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานนี้ คือสิ่งใดเล่า ?
ดังนั้นท่านจึงกล่าวตอบว่า
فَقَالَ هَذَا الشَّيْطَانُ قَدْ أَيِسَ مِنْ عِبَادَتِهِ،
ท่านกล่าวว่า นี่คือ(เสียงของ)ชัยฏอน มันได้สิ้นหวังจากการทำให้ผู้คนนั้นหลงทาง
เมื่อนั้นประทีปแห่งการชี้นำจึงบังเกิด เมื่อนั้นท่านศาสดาจึงกล่าวต่อว่า
إِنَّكَ تَسْمَعُ مَا أَسْمَعُ وَ تَرَى مَا أَرَى
แท้จริงเจ้านั้นได้ยินสิ่งที่ข้าได้ยิน และได้เห็นสิ่งที่ข้าได้เห็นแล้ว
إِلَّا أَنَّكَ لَسْتَ بِنَبِيٍّ وَ لَكِنَّكَ لَوَزِيرٌ، وَ إِنَّكَ لَعَلَى خَيْرٍ.
“เพียงแต่เจ้านั้นมิได้เป็นศาสดา แต่เป็นผู้ช่วยเหลือข้า และเจ้านั้นได้ตั้งมั่นอยู่บนความดีงามแล้ว”
นี่!! คือความใกล้ชิดระหว่างอมีรุลมุอฺมีนีนกับท่านศาสดา #นับตั้งแต่เยาว์วัย
สรุปประเด็นในตัวบท
บุคลิกภาพและชีวิตของอมีรุลมุอฺมีนีน(อ)นับตั้งแต่วิลาดัตจนถึงวันชะฮาดัต นับเป็นตัวตนที่ไม่เหมือนใครและจะไม่มีใครเหมือน ความประเสริฐบางประการที่พระองค์ได้มอบให้แก่ท่าน(อ) มีเพียงท่านเท่านั้นที่ได้ครอบครองความประเสริฐเหล่านั้น เช่น การถือกำเนิดใน “เญาฟ์” การติดตามและเคียงข้างท่านศาสดานับตั้งแต่ยังไม่ประกาศการ “เบียะซัต” ที่ถ้ำฮิรอ ,การเป็นมุสลิมคนแรก ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงตัวตนและบุคลิกภาพอันที่ละเอียดอ่อนของท่านอมีรุลมุอฺมีนีน(อ)
เชิงอรรถ
[1] แปลเชิงอรรถ เญาวฟ์ ญีม วาว ฟา (ج-و-ف) หมายถึง ภายในกะอฺบะฮ์
[2] แปลเชิงอรรถ นะฮญุลบาลาเฆาะ คุตบะฮ์ที่ 192 รู้จักกันในนาม กอซีอะอ์ หมายถึง ผู้ตำหนิผู้ที่ยโสโอหัง
[3] ผู้แปล: จากอัลมีซาน 8/348 มะละกูต หมายถึง ด้านบาฏินของสิ่งหนึ่ง หรือ ด้านที่แท้จริงของสิ่งหนึ่งในแง่ที่เชื่อมโยงกับพระผู้อภิบาล และยังหมายถึงการเห็นด้านภายในของมนุษย์ด้วยอีม่านในระดับยากีนแท้จริง
อ้างอิง انسان 250 ساله حلقه سوم ، ص 77-78