ความเชื่อเรื่อง " กอฎอ กอดัร " ในทัศนะชีอะฮ์
ความเชื่อเกี่ยวกับความดีและความไม่ดีที่อัลลอฮ์กำหนดนั้น
พวกขวาสุดโต่งเชื่อว่า อัลลอฮ์กำหนดให้คนหนึ่งเป็นคนดีดังนั้นเขาจึงได้เข้าสวรรค์ และทรงกำหนดให้อีกคนหนึ่งทำความชั่วแล้วก็ทรงลงโทษเขาต่อความผิดกลุ่มนี้ชื่อว่า”พวกญับรียะฮ์”
อีกพวกหนึ่งก็ซ้ายตกขอบเพราะเชื่อว่า อัลลอฮ์ทรงมอบเสรีภาพในการกระทำและการแสวงหาปัจจัยต่างๆให้เขาตามใจปรารถนา โดยที่พระองค์จะไม่เข้าไปก้าวก่ายเขาเลยสักนิด กลุ่มนี้ชื่อว่า “พวกตัฟวีฎ” เกี่ยวกับคนสองกลุ่มนี้ อิม่ามญะอ์ฟัร(อ)ได้สอนชีอะฮ์ว่า
> لاَ جَبْر وَلاَ تَفْوِيْض بَلْ أمرٌ بَيْنَ أَمْرَيْنِ (เรา)ไม่ใช่พวกญับร์และไม่ใช่พวกตัฟวีฎ แต่ทว่า(ความเชื่อที่ถูกต้องนั้นเรา)อยู่ระหว่างสองเรื่อง < ชีอะฮ์อยู่ระหว่างทางสายกลางของสองความเชื่อนี้กล่าวคือ ชีอะฮ์เชื่อว่า อัลลอฮ์ตะอาลาทรงทำให้มนุษย์มีความสามารถบนการกระทำของเขา และทรงวางขอบเขตในการกระทำไว้ให้กับพวกเขา ทรงห้ามปรามพวกเขาให้ออกห่างจากสิ่งไม่ดีสิ่งชั่วร้ายและทรงสัญญาว่าจะลงโทษถ้าฝ่าฝืน และพระองค์ไม่เคยบังคับใครให้กระทำความชั่วและก็ไม่เคยปล่อยให้พวกเขากระทำชั่วโดยเสรี เพราะอัลลอฮ์ทรงรับสั่งมนุษย์ให้ทำความดีและทรงสั่งห้ามในเรื่องการทำความชั่ว นี่คือความเชื่อของชีอะฮ์ที่แตกต่างจากพวกญับรียะฮ์และพวกตัฟวีฎ หากถามว่า ความชั่วร้ายเลวทรามเกิดจากใคร อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า
مَّا أَصَابَكَ مِنْ حَسَنَةٍ فَمِنَ اللّهِ وَمَا أَصَابَكَ مِن سَيِّئَةٍ فَمِن نَّفْسِكَ
ความดีใดๆ ที่มาประสบแก่เจ้านั้นมาจากอัลลอฮ์ และความชั่วใดๆ ที่มาประสบแก่เจ้านั้นมาจากตัวของเจ้าเอง (อันนิซาอ์ : 79)
เราเชื่อว่าเป็นไม่ได้ที่อัลลอฮ์จะทรงกำหนดให้มนุษย์คนหนึ่งเป็นคนชั่ว แล้วเอาเขาลงนรกเพราะเหตุที่เขาถูกกำหนดให้ทำชั่ว หากอัลลอฮ์ทรงกำหนดเช่นนั้นจริง ย่อมถือว่าอัลลอฮ์ไม่มีความยุติธรรมต่อมนุษย์และนั่นคือการอธรรม(ซอเล็ม) อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า
أَلاَ لَعْنَةُ اللّهِ عَلَى الظَّالِمِينَ
จึงรู้เถิดว่า อัลลอฮ์ทรงละอ์นัต(สาปแช่ง)คนซอเล็ม(ผู้อธรรม)ทั้งหลาย (ฮูด : 18)
อัลลอฮ์คือผู้สร้างความชั่วร้ายจริงหรือ อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า مِن شَرِّ مَا خَلَقَ จากความชั่วร้ายที่พระองค์ทรงสร้างมา (อัลฟะลัก : 2)
ชัรรุน – شَـرٌّ “ แปลว่า สิ่งไม่ดี,ความชั่วร้าย,ความเลว,อันตราย อธิบาย : ท่านต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องก่อนว่า ในตัวมนุษย์และทุกสิ่งในโลกนี้ มีทั้งสิ่งดีและไม่ดีอยู่ในตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต วัตถุหรือไม่ใช่วัตถุ มนุษย์หรือญิน หรือสัตว์ร้ายเช่นสิงห์โต,เสือ แมลงหรือสัตว์เลื้อยคลานเช่น แมงป่อง,ตะขาบ,งูเห่า ต้นไม้ใบหญ้าพืชผักผลไม้ล้วนมีทั้งสรรพคุณและเป็นพิษเป็นอันตราย หรือโรคภัยไข้เจ็บ หรือภัยธรรมชาติเช่นลมพายุ,น้ำท่วม หรือชัยตอนมารร้ายที่มองไม่เห็นที่คอยกระซิบกระซาบจิตใจมนุษย์... สิ่งเหล่านี้อาจสร้างความเดือดร้อนให้คนเราได้ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะความเป็นอยู่ของแต่ละคนว่าจะเผชิญกับสภาวะการณ์เช่นใด มนุษย์บางคนทุ่มเทชีวิตค้นคว้าตัวยาเพื่อรักษาโรคที่รักษาไม่หายจนหายได้ และมนุษย์บางคนก็ผลิตสารเคมีมาเพื่อทำลายชีวิตมนุษย์นับล้านคน มนุษย์ระเบิดภูเขามาสร้างอาคารบ้านเรือนเพื่อปกป้องชีวิตให้พ้นภัยอันตราย แต่ก้อนหินเหล่านั้นก็สามารถทำให้มนุษย์ถึงแก่ความตายได้เช่นกัน สิงห์โตเป็นสัตว์ดุร้ายคร่าชีวิตมนุษย์ได้ในพริบตา แต่มนุษย์ก็สามารถฝึกฝนจนมันเชื่องนำมาแสดงละครสัตว์ให้ความเพลิดเพลินได้เช่นกัน แมงป่องทะเลทรายมีพิษร้ายแรงมากถ้าถูกต่อยก็ตายได้ แต่พิษของมันก็สามารถรักษาคนเป็นอัมพาตให้หายได้ งูเห่าฉกคนตายได้และพิษงูเห่าก็ผลิตเป็นเซรุ่มได้ด้วยเช่นกัน ลมและน้ำมีทั้งคุณและโทษ ถ้าลมไม่พัดอากาศจะร้อน แต่ถ้าพัดแรงก็กลายเป็นพายุ ถ้าฝนไม่ตกก็เกิดภัยแล้ง แต่ถ้าตกชุกมากไปน้ำก็ท่วม อัลลอฮ์ตะอาลาไม่ได้สร้างสิ่งเหล่านี้มาให้โทษให้ร้ายกับมนุษย์ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นมันขึ้นอยู่ที่สภาวะการณ์และตัวแปร เพราะฉะนั้นเราจะเหมาเอาสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นจากคนและสิ่งต่างๆที่เราเผชิญกับมันมาปรักปรำว่า อัลลอฮ์ทรงประสงค์จะให้สิ่งร้ายๆเกิดขึ้นกับเรานั้นไม่ได้ เพราะอัลลอฮ์ทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาความรักและทรงให้ความยุติธรรมต่อมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นมุอ์มินหรือกาเฟ็ร