10 สัญญาณก่อนวันสิ้นโลกที่ปรากฎอยู่ในคัมภีร์ และพระวจนะของศาสดาอิสลาม[ตอนที่ 1]
  • ชื่อ: 10 สัญญาณก่อนวันสิ้นโลกที่ปรากฎอยู่ในคัมภีร์ และพระวจนะของศาสดาอิสลาม[ตอนที่ 1]
  • นักเขียน:
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 22:16:49 14-9-1403

10 สัญญาณก่อนวันสิ้นโลกที่ปรากฎอยู่ในคัมภีร์ และพระวจนะของศาสดาอิสลาม ตอนที่ 1


เรียบเรียงโดยเชคอันซอร เหล็มปาน

 

สัญญาณวันกิยามะห์ หรือ เครื่องหมายของวันสิ้นโลก ที่ปรากฎอยู่ในคัมภีร์ และพระวจนะของศาสดาอิสลาม[ตอนที่ 1]

วันสิ้นโลก เป็นความเชื่อที่อยู่คู่กับมนุษย์มาอย่าช้านาน และสามารถบอกได้ว่า มีมาตั้งแต่วันที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์คู่แรกขึ้นมา นั่นคือ อาดัม และฮาวา และใช่ว่าความเชื่อเรื่อง “วันสิ้นโลก” ได้มีที่มาแค่เพียงแหล่งเดียวคืออิสลาม เปล่าเลย แต่เป็นความเชื่อที่มีอยู่ในทุกลุ่มศาสนาที่เชื่อในเรื่องของพระเจ้า เช่นคริสต์ ยูดาย และอื่นๆ หรือแม้เเต่กลุ่มคนที่นับถือในผีสางนางไม้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์  เช่น คำทำนายวันสิ้นโลกของชนเผ่ามายา เป็นต้น

ในคำภีร์อัลกุรอ่านกล่าวถึงเรื่องราวของวันสิ้นโลกไว้ว่า คือ “วันเเห่งพันธะสัญญาของพระเจ้า”

إِنَّ وَعدَ اللَّـهِ حَقٌّ فَلا تَغُرَّنَّکُمُ الحَیاهُ الدُّنیا

[32:33]แท้จริงสัญญาของอัลลอฮ์[ในเรื่องวันสิ้นโลก]นั้นเป็นความจริง ฉะนั้นอย่าให้ชีวิตโลกนี้ต้องล่อลวงพวกเจ้า

یَسْئَلُکَ النَّاسُ عَنِ السَّاعَةِ قُلْ إِنَّما عِلْمُها عِنْدَ اللهِ وَ ما یُدْریکَ لَعَلَّ السَّاعَةَ تَکُونُ قَریباً
[33:63]ผู้คนจะสอบถามเจ้าเรื่องวันสิ้นโลก จงกล่าวบอกว่า อันที่จริงความชัดเจนของเรื่องนี้(ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด)อยู่ ณ อัลลอฮ์เท่านั้น เจ้าจะรู้อะไร บางที่การอวสานของโลกกำลังใกล้เข้ามาแล้ว !!
ใช่แล้ว !! บางทีวันสิ้นโลก กำลังใกล้เข้ามาแล้ว แต่ด้วยกับความสุขสบายทางโลก และการดิ้นรนต่อสู้เพื่อปัจจัยทางโลก บางครั้งทำให้มนุษย์หลงลืม และคิดว่า คงอีกนาน หรือไม่ก็ลืมไปเลย

สัญญาณแห่งวันสิ้นโลก
สัญญาณ หรือเครื่องหมายต่างๆที่เเสดงให้เห็นว่า วันสิ้นโลกใกล้เข้ามาแล้ว และกำลังจะอุบัติขึ้น ได้แก่
1. จะเกิดความอธรรมไปทุกหย่อมหญ้า และการปกครองจะเต็มไปด้วยการกดขี่ และความอธรรม
ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ. กล่าวไว้ว่า
ยุคสมัยหนึ่ง(ก่อนกิยามัต)จะมาถึง ที่จะมีคนกลุ่มหนึ่งขึ้นสู่อำนาจการปกครองเหนือผู้คน หากผู้ใดพูดถึงพวกเขา(ท้วงติง)ก็จะถูกฆ่า และหากนิ่งเงียบทุกอย่างก็จะกลายเป็นสิ่งอนุมัติ(เสมือนว่าทุกคนเห็นด้วยกับผู้ปกครอง)-[จากหนังสือ มุนตะค่อบุนอะซัร หน้า 432]

ท่านอิมามอะลี อ. กล่าวว่า :
ในยุคนั้น(ก่อนวันสิ้นโลก)ผู้คนต้องทำตัวเป็นหมาป่า เพราะมิเช่นนั้นแล้ว หมาป่าตัวอื่น ๆ ก็จะรุมแทะเนื้อเขา[จากหนังสือ มะการีมุลอัคลาค หน้า 527]

ท่านอิมามอะลี อ. กล่าวถึงสภาพสังคมก่อนวันสิ้นโลกไว้อีกว่า :
ผู้คนประดุจดั่งหมาป่า กษัตริย์ ชนชั้นปกครอง จะโหดเหี้ยม ชนชั้นกลางจะเป็นกลุ่มที่อิ่มหมีปีมัน คนชั้นล่าง ผู้ยากจนจะกลายเป็นซากศพ[จากหนังสือ นะฮ์ญุล บะลาเฆาะ หน้า 324]

ท่านศาสนทูตได้กล่าวถึงสภาพสังคมในยุคที่ท่านอิมามมะฮ์ดี อ. จะมาปรากฏกาย นั้นคือ ยุคก่อนวันกียามัตไม่นาน ว่า เป็นสังคัมที่เต็มไปด้วยความกดขี่และความอธรรม
كَمَا مُلِئَتْ ظلماً جَوْرًا
เหมือนอย่างที่โลกนี้เต็มไปด้วยความอธรรม และความชั่วร้าย”

 

2. การปราฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี อ. และการลงมาของท่านนบีอีซา อ.

ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ.ได้แจ้งข่าวดีในเรื่องนี้ และสอนให้ศ่อฮาบะฮ์รู้ว่าอัลลอฮ์ ซ.บ. จะทรงให้เขาปรากฏในยุคสุดท้ายก่อนวันสิ้นโลก

ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ. กล่าวว่า :

قَالَ رَسُولُ اللَّهِ (صلى الله عليه وآله وسلم): لَوْ لَمْ يَبْقَ مِنَ الدُّنْيَا إِلا يَوْمٌ، لَطَوَّلَ اللَّهُ ذَلِكَ الْيَوْمَ، حَتَّى يَبْعَثَ اللَّهُ فِيهِ رَجُلا مِنِّي، أَوْ مِنْ أَهْلِي أَهْلِ بَيْتِي، يُوَاطِئُ اسْمُهُ اسْمِي، وَاسْمُ أَبِيهِ اسْمَ أَبِي يَمْلَأُ بِهَا الأرض قسطاً وعدلاً كَمَا مُلِئَتْ ظلماً جَوْرًا

“หากโลกนี้จะไม่คงอยู่อีกแล้ว นอกจากเพียงวันเดียว แน่นอน อัลลอฮ์ ซ.บ. จะทรงยืดเวลาวันนั้นให้นาน เพื่อพระองค์จะส่งชายคนหนึ่งจากอะฮ์ลุลบัยต์ อ. ของฉันมา ชื่อของเขาจะตรงกับชื่อฉัน ชื่อบิดาของเขาจะตรงกับชื่อของบิดาของฉัน เขาจะมาทำให้แผ่นดินนี้เต็มไปด้วยความเป็นธรรมและยุติธรรม เหมือนอย่างที่ความอธรรม และความชั่วเคยเต็มมาก่อน” (“ซุนันอะบูดาวูด” เล่ม 2 หน้า 422)

มีรายงานใน “ซุนัน อิบนุ มาญะฮ์ ว่าท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ.  กล่าวว่า

إنّا أهْلُ بَيْتٍ اخْتَارَ اللهُ لَنَا الآخِرَةَ علَى الدُّنْيا، وإِنَّ أهْلَ بَيْتي هؤلاءِ سَيُقْتَلُونَ (سَيَلْقَوْنَ) بَعْدي بَلاءً وَتَطْريداً وَتَشْريداً، حَتّى يَأْتِيَ قَوْمٌ مِنْ ها هُنا، مِنْ نَحْوِ المَشْرِقِ، أَصْحاب راياتٍ سُودٍ، يَسْأَلُونَ الحَقَّ فَلا يُعْطَوْنَهُ، مرَّتَيْنِ أو ثلاثاً، فَيُقاتِلونَ فَيُنْصَرُونَ، فَيُعْطَوْنَ مَا سَألُوا فلا يَقْبَلُوها  حَتّى يَدْفَعُوها إلى رَجُلٍ مِن أهْلِ بَيْتي، فَيَمْلَؤُها عَدْلاً كَما مَلَؤوها ظُلْماً،

“แท้จริงพวกเรา อะฮฺลุลบัยต์ อัลลอฮ์ ซ.บ. ทรงคัดเลือกปรโลกให้แก่พวกเราเหนือกว่าโลกนี้ และแท้จริงอะฮ์ลุลบัยต์ของฉันจะประสบการทดสอบอย่างรุนแรงภายหลังจากฉันจะถูกขับไล่ จนกระทั่งจะมีคนพวกหนึ่งจากทางตะวันออกมาพร้อมกับถือธงดำ พวกเขาจะถามหาสัจธรรม แต่พวกเขาไม่ได้รับสัจธรรมนั้น ถึงสองครั้งหรือสามครั้ง แล้วพวกเขาก็ต่อสู้จนได้ชัยชนะ พวกเขาจึงได้รับสิ่งที่พวกเขาถามหา แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมรับ จนกระทั่งพวกเขามุ่งไปหาชายคนหนึ่งจากอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน ซึ่งเขาจะทำให้แผ่นดินนี้เต็มไปด้วยความเที่ยงธรรม เหมือนที่ความอธรรมเคยเต็มมาก่อน”(ซุนันอิบนุมาญะฮฺ” เล่ม 2 เลขฮะดีษ 4082,4087)

ท่านอิบนุมาญะฮฺ ได้กล่าวใน “ซุนัน เล่ม 2 เลขฮะดิษ 4085,4086 รายงานจากท่านหญิงอุมมุซะลามะฮ์ว่า : ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์กล่าวว่า

عَنْ أُمِّ سَلَمَةَ -رضي الله عنها- قَالَتْ: سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ -صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ- يَقُولُ: الْمَهْدِيُّ مِنْ عِتْرَتِي مِنْ وَلَدِ فَاطِمَةَ

อัล-มะฮฺดี มาจากเรา อะฮฺลุลบัยต์ อัล-มะฮ์ดี มาจากลูกหลานของฟาฏิมะฮ์

และท่านนบี ศ. ได้กล่าวว่า

يَكُونُ فِي أُمَّتِي الْمَهْدِيُّ إِنْ قَصَّرَ فَسَبْعٌ وَإِلَّا فَتِسْعٌ، تَنْعَمُ أُمَّتِي فِيهِ نِعْمَةً لَمْ يَنْعَمُوا مِثْلَهَا قَطُّ، تُؤْتِي الْأَرْضُ أُكُلَهَا لَا تَدَّخِرُ عَنْهُمْ شَيْئًا، وَالْمَالُ يَوْمَئِذٍ كُدُوسٌ يَقُومُ الرَّجُلُ فَيَقُولُ: يَا مَهْدِيُّ أَعْطِنِي، فَيَقُولُ: خُذْ

“ในประชาชาติของฉันจะมีอัล-มะฮฺดี หากว่าใช้เวลาน้อย(ในการปกครอง) ก็เจ็ดปี ถ้าไม่เช่นนั้นก็เก้าปี นอกจากนี้ เขาจะทำให้ประชาชาติของฉันได้รับความโปรดปราน ชนิดที่ไม่เคยได้รับมาก่อน การบริโภคจะมีมาพรั่งพร้อม ทรัพย์สินในวันนั้น เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ถึงขนาดว่าถ้าชายคนหนึ่งยืนขึ้นแล้วกล่าวว่า โอ้ มะฮฺดี โปรดให้ข้าพเจ้าเถิด เขาจะกล่าวว่า จงรับเอาไป”(ซุนันอิบนุมาญะฮฺ” เล่ม 2 เลขฮะดีษ 4086)

อิมามบุคอรี ได้รายงานในศ่อฮีฮฺของท่าน ว่า บินบะกีรได้เล่าเราว่า “อัล-ลัยษ์” รับรายงานมาจากยูนุซรับรายงานมาจากอิบนุชิอาบ จากท่านนาฟิอฺ คนใช้ของอะบี เกาะตาดะฮฺ อัล-อันศอร กล่าวว่า ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ รายงานว่า :

أَنَّ أَبَا هُرَيْرَةَ ، قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : ” كَيْفَ أَنْتُمْ إِذَا نَزَلَ ابْنُ مَرْيَمَ فِيكُمْ ، وَإِمَامُكُمْ مِنْكُمْ

ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ กล่าวว่า “พวกท่านจะรู้สึกอย่างไร ถ้าหากว่าบุตรของมัรยัมจะลงมาในหมู่พวกท่าน และอิมามของพวกท่านมาจากพวกท่านเอง”(ศ่อฮีฮฺบุคอรี” เล่ม 4 หน้า 143 บทว่าด้วย การเสด็จลงมาของอีซา บุตรมัรยัม)

 

 

3. การปรากฏตัวของกองทัพโคระซาน ,กองทัพยะมานี และซุฟยานีย์

ตามคำกล่าวในริวายะฮ์ (คำรายงาน) จากบรรดาอะห์ลุลบัยต์นบี อ. ที่พวกท่านได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่สำคัญ และเกิดขึ้นอย่างแน่นอนก่อนการปรากฏกายของท่านอิมามมะฮ์ดี อ. และก่อนวันสิ้นโลกจะอุบัติขึ้น นั้น คือ การปรากฏตัวของกองทัพเเห่งโคราซาน จากอิหร่าน การมาของกองทัพยะมานีย์ จากเยเมน และการมาของกองทัพมาร ซุฟยานีย์

ท่านซิกเกาะฮ์ มัรฮูม อัล-กุลัยนีย์ได้บันทึกฮะดิษศ่อเอี้ยะฮุลสะนัต จากท่านอิมามญะฟัรรุศอดิก อ. ว่า
قـبـل قـیـام القـائم خـمـس عـلامـات مـحـتـومـات : الیـمـانـی و السـفـیـانـی و
الصـیـحـة و قتل النفس الزکیة و الخسف بالبیداء

ก่อนการปรากฏกายของ อัล-กอเอม(อิมามมะฮ์ดี อ.) จะปรากกฏ 5 สัญญาณที่เที่ยงแท้แน่นอน นั้นคือ อัล-ยะมานีย์ ,อัล-ซุฟยานี , เสียงกัมปนาทดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วท้องฟ้า ,การสังหารนัฟซุซซะกียะฮ์ และการถูกธรณีสูบของกองทัพซุฟยานีในสถานที่บัยดะฮ์(ระหว่างเมืองมักกะฮ์กับมะดีนะฮ์)
ท่านอิมามมุฮัมมัดอัล-บาเก๊รกล่าวว่า :
خروج السفياني واليماني والخراساني في سنة واحدة، في شهر واحد، في يوم
واحد / نعمانى، الغیبة، ص 255، ب 14، ح 13.
การปรากฏตัวของ อัลซุฟยานีย์ ,อัล-ยะมานีย์ และ อัล-โคราซานีย์ จะเกิดขึ้นพร้อมกันในปีเดียว ในเดือนเดียว และในวันเดียวกันเดียวกัน