ใครคือ อะห์ลุลบัยต์นบี ใน ฮะดิษษะก่อลัยน์ จากคำกล่าวของท่านอิมามอะลี
  • ชื่อ: ใครคือ อะห์ลุลบัยต์นบี ใน ฮะดิษษะก่อลัยน์ จากคำกล่าวของท่านอิมามอะลี
  • นักเขียน:
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 20:8:50 1-9-1403

ใครคือ อะห์ลุลบัยต์นบี ใน ฮะดิษษะก่อลัยน์ จากคำกล่าวของท่านอิมามอะลี


ใครคือ อะห์ลุลบัยต์ ใน ฮะดิษษะก่อลัยน์ จากคำกล่าวของท่านอิมามอะลี อ.

เราเชื่อว่า จำเป็นสำหรับท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ. ที่จะต้องละทิ้งหลักการใด ๆ ไว้เพื่อให้ประชาชาติได้ยึดถือ เพราะอันที่จริงท่านถูกแต่งตั้งให้เป็นเราะฮ์มะฮ์สำหรับสากลโลก และท่านปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง ที่จะให้ประชาชาติของท่านเป็นประชาชาติที่ดีที่สุด และอย่าได้ขัดแย้งกันภายหลังจากท่าน ด้วยเหตุนี้ บรรดาสาวกและนักฮะดีษรายงานว่า ท่านศาสนทูตได้กล่าวว่า

إِنِّي تَارِكٌ فِيكُمْ مَا إِنْ تَمَسَّكْتُمْ‏ بِهِ لَنْ تَضِلُّوا بَعْدِي، كِتَابُ‏ اللَّهِ‏ وَ عِتْرَتِي أَهْلُ بَيْتِي، وَ لَنْ يَتَفَرَّقَا حَتَّى يَرِدَا عَلَيَّ الْحَوْضَ، فَانْظُرُوا كَيْفَ تَخْلُفُونِي فِيهِمَا»؛

“ข้าพเจ้าได้ละทิ้งไว้ในหมู่พวกท่านซึ่งสิ่งสำคัญยิ่งสองประการ ตราบใดที่พวกท่านยึดถือกับสองสิ่งนี้ ก็จะไม่หลงผิดภายหลังจากข้าพเจ้าอย่างเด็ดขาด นั่นคือ คัมภีร์ของอัลลอฮ์ ซ.บ. และอะฮฺลุลบัยตฺของข้าพเจ้า และสองสิ่งนี้จะไม่แยกจากกัน จนกระทั่งได้คืนกลับสู่ข้าพเจ้า ณ อัล-เฮาฏ์ ดังนั้น จงพิจารณาดูเถิด พวกท่านขัดแย้งกับฉันในสองสิ่งนี้อย่างไร”


ใครคือ อะห์ลุลบัยต์นบี

ฮะดีษกิซาอ์ กับซูเราะห์อัลอะห์ซาบ อายะห์ที่ 33

عَنْ عَائِشَةَ رَضِيَ اللهُ عَنْهَا قَالَتْ خَرَجَ النَبِيُّ صَلىَ اللهُ عَليْهِ وَسَلَّمَ غَدَاةً وَعَليْهِ مِرْطٌ مُرَحَّلٌ مِنْ شَعْرٍأسْوَدَ فَجَاءَ الحَسَنُ بْنُ عَلِيٍّ فَأدْخَلَهُ ثُمَّ جَاءَ الحُسَيْنُ فَدَخَلَ مَعَهُ ثُمَّ جَاءَتْ فَاطِمَةُ فَأدْخَلَهَا ثُمَّ جَاءَ عَلِيٌّ فَأدْخَلَهُ ثُمَّ قَالَ اِنَّمَا يُرِيْدُ اللهُ لِيُذْهِبَ عَنْكُمُ الرِجْسَ أهْلَ البَيْتِ وَيُطَهِّرَكُمْ تَطْهِيْرًا

“อาอิชะห์ ได้รายงานว่า ท่านนบี ศ. ได้ออกมาในตอนสายของวันหนึ่ง ที่ท่านมีผ้าคลุมสีดำปักลายรูปการเดินทางของอูฐ เมื่อฮะซันบุตรของอะลีมาถึงท่านก็ให้เข้าไปอยู่ในผ้าห่ม หลังจากฮุเซนมาถึงก็เข้าไปอยู่ด้วย จากนั้นฟาติมะห์ได้มาถึงท่านก็ได้ให้เข้าไปอยู่ด้วย เมื่ออะลีมาถึงท่านก็ให้เข้าไปอยู่ในผ้าห่มกับท่านด้วย แล้วท่านนบีก็กล่าวว่า อันที่จริงพระองค์อัลลอฮ์ประสงค์ที่จะขจัดความไม่ดีงามออกจากพวกเจ้า โอ้ครอบครัวของนบี ทั้งนี้เพื่อจะขัดเกลาพวกเจ้าให้บริสุทธิ์” (ศอเฮียะห์มุสลิม ฮะดีษเลขที่ 4450)

ในริวายะฮ์ที่รายงานโดยอุมมุลซะลามะฮ์ ท่านนบี ศ. ได้กล่าวต่อว่า

ثُمَّ قَالَ اللهُمَّ هَؤلاءِ أهْلُ بَيْتِي فَأذْهِبْ عَنْهُمُ الرِجْسَ وَطَهِّرْهُمْ تَطْهِيْرًا

“หลังจากนั้นท่านนบีได้กล่าวว่า โอ้พระองค์อัลลอฮ์ พวกเขาเหล่านี้เป็น อะห์ลุลบัยต์ของฉัน ได้โปรดขจัดความไม่ดีงามออกจากพวกเขา และขัดเกลาพวกเขาให้บริสุทธิ์ด้วยเถิด” และท่านหญิงอุมมุซะละห์ ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่ท่านนบีเอาผ้าคลุมบุคคลทั้งสี่แล้วของดุอาอ์ให้ นางจึงได้กล่าวว่า

وَأنَا مَعَهُمْ يَا نَبِيَ اللهِ قََالَ أنْتِ عَلَى مَكانِكِ وَأنْتِ عَلَى خَيْرٍ

ขอให้ฉันเป็นหนึ่งในพวกเขาด้วยเถิด โอ้นบีของอัลลอฮ์ ท่านกล่าวว่า เธออยู่ในที่ของเธอนั้นแหละ เพราะเธอได้รับความดีอยู่แล้ว” (สุนันอัตติรมีซีย์ ฮะดีษเลขที่ 3129)

ฉะนั้นเป็นที่แน่ชัดว่า “อะห์ลุลบัยต์นบี ที่พระองค์ทรงรับรองถึงความสะอาด บริสุทธิ์ของพวกเขา ในเหตุการณ์นี้ ประกอบด้วย อิมามอะลี อ. ท่านหญิงฟาฎิมะฮ์ อ. ท่านอิมามฮะซัน อ. และท่านอิมามฮุเซน อ.

และเหตุผลหนึ่งที่ชาวชีอะห์เชื่อว่าเหล่าภรรยานบี ไม่ได้อยู่ในกลุ่มอะห์ลุลบัยต์เฉพาะของท่านนบี ศ. ก็เพราะประโยคที่ท่านนบี ศ. กล่าวกับภรรยาของท่านว่า

أنْتِ عَلَى مَكانِكِ
อยู่ในที่ของเธอแหละดีแล้ว

บรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์แห่งอะห์ลุลบัยต์นบีอีก 9 ท่านมีหลักฐานหรือไม่ ?

มีรีวายะฮ์มากมายที่กล่าวถึงอิมาม 12 ผู้ทรงบริสุทธิ์ทั้งในตำราซุนนะห์ และตำราชีอะห์ แต่ข้าพเจ้าจะขอยกเพียงริวายะฮ์จากท่านอิมามอะลี อ. ที่กล่าวถึง อิมามอีก 9 ท่านผู้เป็นอะห์ลุลบัยต์นบี

حدَّثنا محمَّد بن زياد بن جعفر الهمدانيُّ ـ رضي اللّه عنه ـ قال: حدَّثنا عليُّ بن إبراهيم بن هاشم، عن أبيه، عن محمّد بن أبي عمير، عن غياث بن إبراهيم، عن الصادق جعفر بن محمَّد، عن أبيه محمَّد بن عليّ، عن أبيه عليِّ بن الحسين، عن أبيه الحسين بن عليٍّ _ عليهم السلام _ . قال: «سئل أمير الموَمنين ـ صلوات اللّه عليه ـ عن معنى قول رسول اللّه _ صلى الله عليه وآله وسلم _ : إنِّي مُخَلِّفٌ فِيكُمُ الثَّقَلَيْـن: كِتَابَ اللّهِ وَعِتْرَتي. مَنْ العِتْرَةُ ؟ فقال: أَنَا والحَسَنُ وَالحُسينُ والاَئمَّةُ التِّسْعَةُ مِنْ وُلْدِ الحُسَين تَاسِعُهُمْ مَهْدِيُّهُمْ وَقَائِمَهُمْ، لا يُفَارِقُونَ كِتابَ اللّهِ وَلا يُفارِقُهُمْ حَتّى يَرِدُوا عَلَـى رَسُولِ اللّهِ _ صلى الله عليه وآله وسلم _ حَوْضَهُ

 
อะหมัด บินซิยาด บินญะอ์ฟัร อัลฮะมะดานีเล่าให้เราฟัง จากอาลี บินอิบรอฮีม บินฮาชิมจากบิดาเขา จากมุฮัมมัด บินอะบีอุมัยริน จากฆิยาษ บินอิบรอฮีมเล่าว่า : จากอิม่ามอัศศอดิก ญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด จากบิดาเขาคืออิม่ามมุฮัมมัด บินอาลี จากบิดาเขาคืออิม่ามอาลี บินฮูเซน จากบิดาเขาคืออิม่ามฮูเซน บินอาลีเล่าว่า : ท่านอิม่ามอะมีรุลมุอ์มินีน(อิมามอะลี อ.) ถูกถามถึงความหมายของวจนะของท่านรอซูลุลลอฮ์ ศ. ที่กล่าวว่า :

แท้จริงฉันได้มอบสิ่งหนักสองสิ่งไว้ในหมู่พวกท่าน สิ่งแรกคือคัมภีร์ของอัลลอฮ์และอิตเราะฮ์ของฉัน,(ว่า) ใครคือ อิตเราะฮ์ ?

ท่าน(อิมามอะลี อ.)ได้ตอบว่า : คือฉัน , ฮาซัน , ฮูเซนและบรรดาอิม่ามอีก 9 คนที่สืบเชื้อสายจากลูกหลานของฮูเซน คนที่ 9 คือมะฮ์ดีของพวกเขาและคือกออิมของพวกเขา พวกเขาจะไม่แยกจากคัมภีร์ของอัลลอฮ์ และคัมภีร์ของอัลลอฮ์ก็จะไม่แยกจากพวกเขา จนทั้งสองจะกลับคืนมายังท่านรอซูลุลลอฮ์ที่สระอัลเฮาฎ์ของท่าน (ดูหนังสืออุยูนุ อัคบาริลริฎอ อ. โดยเชคศอดูก เล่ม 1 : 57 หะดีษที่ 25)

บทความโดย เชคอันซอร เหล็มปาน