ลัทธิซูฟีกับมรดกทางจิตวิญญาณที่ไม่มีวันตาย
  • ชื่อ: ลัทธิซูฟีกับมรดกทางจิตวิญญาณที่ไม่มีวันตาย
  • นักเขียน: ดร.ประเสริฐ สุขศาสน์กวิน
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 8:17:1 4-9-1403

ลัทธิซูฟีกับมรดกทางจิตวิญญาณที่ไม่มีวันตาย

 

"ความงดงามของพระองค์ คือลมหายใจของข้า
ความโอ่อ่าสง่าของพระองค์ คือความตายของข้าอย่างภาคภูมิแห่งรักนั้น
ไม่ว่าพระองค์อยู่หนใด ณ ที่นั่นชั่งงดงามที่สุด
ทุกความสุขและความปิติแห่งชีวิตอยู่ที่นั่น"
 ( The Divan of Hafez)

      เราได้เห็นอัตลักษณ์น่าทึ่งหนึ่งของลัทธิซูฟีและน่าสนใจในโลกวันนี้ นั่นคือการให้คุณค่าของการปฎิบัติธรรมและการจาริกทางจิตวิญญาณ เป็นความงามที่สำแดงออกทางจิตภิรมย์ น่าค้นหา พวกเขาได้ถูกอ้างถึงในฐานะที่เป็นเหตุผลของการภักดีเชื่อฟังต่อพระเจ้าอีกทั้งเป็นบรรไดของการเข้าถึงความเป็นมนุษย์ผู้สมบูรณ์โดยถือว่าการสำแดงออกด้วยการปฎิบัติทางจริยธรรมและการเก็บเกี่ยวผลจากจริยะนั้นเป็นการเข้าใจตัวตนมนุษย์ในจุดเริ่มต้น


     ดังนั้น บรรดานักซูฟีได้เน้นประเด็นที่ว่า ถ้าจุดมุ่งหมาย ในชีวิตของมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งอื่นนอกจากพระเจ้าแล้วไซร้ พวกเขาก็จะเกิดความรู้สึกผิดและถือเป็นอุปสรรคในการบรรลุความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงเลยทีเดียว


    ซูฟีชนได้ยืนอยู่บนแนวทางการทำให้จิตใจสะอาดบริสุทธิ์ การขจัดอัตตา กิเลสตัณหา  และยังถือว่าเป็นวิธีที่ดีเลิศทีเดียวของการสร้างตนเองให้มีจิตใจบริสุทธิ์  และจากความมุ่งมั่นของพระสาวกของศาสดามูฮัมมัด ต่อการสร้างจิตใจให้มีความบริสุทธิ์ ทำให้เป็นบ่อเกิดแห่งจุดสนใจของอนุชนรุ่นต่อมา ทำให้เห็นถึงความสำเร็จของพวกเขาในการจะใช้ชีวิตอย่างสมถะ ค้นคว้าหาแก่นแท้ของชีวิต จนในที่สุดเป็นที่ขานรับอย่างสูงในโลกอิสลามต่อการฝึกฝนจิตใจให้สู่ชั้นสูงสุด เพื่อสยบมารร้ายที่จะมายุแหย่เป็นที่ถูกรู้จัก ในนามของ “ลัทธิซูฟี”(Sufism)


   กระแสตอบรับในช่วงแรก ๆ นั้นค่อนข้างจะเบาบาง เพราะว่าภาพภายนอกที่ได้แสดงออกมาค่อนข้างจะแปลกประหลาดทีเดียว การดำเนินชีวิต การอิบาดะฮ์(การปฎิบัติธรรม)หรือแม้แต่ การกิน การดื่มของพวกเขา ดูแล้วสวนกระแสของคนหมู่มากที่ถือปฏิบัติกันมา จนทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อลัทธิซูฟี หรือที่รุนแรงไปกว่านั้นถึงกับกล่าวว่า ลัทธิซูฟีเป็นพวกนอกรีตบ้าง เป็นผู้นอกศาสนาบ้าง หรือไปกว่านั้นโดยกล่าวว่า พวกซูฟีเป็นผู้ปฏิเสธและทำลายโครงสร้างอิสลาม


    แต่ทว่าเหล่าซูฟีชนนั้นไม่ท้อถอยและยังยึดมั่นต่อวิธีการสร้างความบริสุทธิ์ใจ และทำจิตใจให้สะอาดของพวกเขาโดยได้เดินหน้าต่อไป ถึงแม้ว่าบางตอนของประวัติศาสตร์ถึงกับต้องรักษามันไว้ด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน หรือต้องหลั่งเลือดเสียชีวิตก็ตาม อย่างเช่นมันซูร ฮัลลาจ นักซูฟีผู้ยิ่งใหญ่ถูกนำไปประหารชีวิต และอีกหลายคนที่ได้ดำรงรักษาแนวทางนั้นไว้ จนในที่สุดเป็นที่ยอมรับว่า แนวทางหนึ่งที่สามารถเข้าถึงความจริงสูงสุด และสร้างความใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้าได้ดี คือแนวทางแห่งรหัสยะนิยม(Mysticism)


บทความโดย ดร.ประเสริฐ สุขศาสน์กวิน