คุณลักษณะบุคลากรของพระเจ้า ตอนที่ 1
  • ชื่อ: คุณลักษณะบุคลากรของพระเจ้า ตอนที่ 1
  • นักเขียน: San Navic
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 6:44:10 4-9-1403

คุณลักษณะบุคลากรของพระเจ้า ตอนที่ 1

 

สมมุติฐานหรือข้อสังเกตใดที่จะบ่งชี้ได้ว่าผู้นั้น คือบุคลากรของ พระเจ้าอย่างแท้จริง?
แน่นอนว่า บางยุคบางสมัยบุคลากรของพระองค์ ก็คือ “อัมบิยาอ” บาง ยุคสมัย คือ “เอาศิยาอ์” บางยุคสมัย คือ
เอาลิยาอ์” แต่ที่ข้าพเจ้าไม่เอ่ยถึง
อิมาม” นั้น ก็เพราะว่าอิมามคือ “วะศีย์” บรรดา "อะอิมมะฮ์ (อ) ทั้งสิบสองคน คือ
 “วะศีย์” ทายาททางการปกครองของศาสดามุฮัมมัด (ศ)
ดังนั้น บุคลากรชุดสุดท้าย คือ
 “เอาลิยาอ์” ซึ่งตรงนี้ก็หมายถึง “อาเล็ม
อุละมาอ์ ผู้รู้ที่พัฒนาตนไปสูจุดสมบูรณ์จนถึงขั้น "วลี" ของอัลลอฮ์(ซบ) และ บุคคลเหล่านี้ คือ บุคลากรโดยตรง
ของอัลลอฮ์(ซบ) เนื้อหาตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก !!

อุละมาอ์อื่นๆ คือบุคลากรที่รับใช้
อัลลอฮ์(ซบ) แต่ก็ยังไม่ใช่บุคลากร โดยตรงจากอัลเลาะห์ (ซบ) จะเรียกได้ก็ต่อเมื่อบุคคลเหล่านั้นอยู่ในตำแหน่ง "วลี ของอัลลอฮ์(ซบ) เท่านั้น

และอีกประการหนึ่งที่สำคัญก็คือ
"เอาลิยา ” ของพระองค์ส่วนมากจะ ไม่เปิดเผยตน จะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เปิดเผย

อัลฮัมดุลิลละฮ์ ! .. เอาลิยา ที่เปิดเผยนั่นแหละ คือ บุคคลที่เราจะต้อง ยึดมั่น

เราจะมาพิจารณาคุณลักษณะของบุคลากรโดยตรงของอัลลอฮ์(ซบ) ว่าเป็นอย่างไร? แน่นอนว่า ย่อมจะมีลักษณะพิเศษอยู่จำนวนหนึ่ง คุณลักษณะ ที่สำคัญอันแรกที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าบุคคลนั้นคือ บุคลากรโดยตรงของพระองค์ หรือไม่ คือ เราจะต้องพิสูจน์ที่ตัวของบรรดาอัมบิยาอเสียก่อน

คุณลักษณะที่หนึ่ง คือ พิสูจน์การทำงานการต่อสู้ของพวกเขา ว่าเพื่อ อัลลอฮ์(ชน) เพียงหนึ่งเดียว บริสุทธิ์ใจไม่มีจุดประสงค์ใดแอบแฝง “อิคลาส” เพื่อพระองค์ผู้เดียวหรือไม่ ถ้าเราดูในสำนวนอัลกุรอาน พระองค์อัลลอฮ์(ซบ) ส่งให้ศาสดาทุกคนพูด (กุล) ว่าไม่ขอรางวัลใดๆ ในการทำภารกิจอันนี้ ในตัฟซีร อธิบายว่าการปฏิเสธ "อัจญรอ" (รางวัล) ตรงนี้หมายถึง ปฏิเสธ ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เป็นรางวัล

บางครั้งมนุษย์ได้รับรางวัลแห่งความดี “ทางวัตถุ เช่น ทรัพย์สินเงินทอง และบางครั้งก็คือสิ่งที่เป็น นามธรรม" เช่น การขอบคุณ การให้เกียรติ สรรเสริญ เยินยอ นี่ก็เป็นอีกชนิดหนึ่งของรางวัลสำหรับมนุษย์

ดังนั้น บุคลากรของอัลลอฮ์(ซบ) จะประกาศอย่างชัดแจ้งว่า ไม่ต้องการรางวัลใดๆ กระทำเพื่ออัลลอฮ์(ชบ) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และมิได้ คาดหวังใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งถ้าเรามองโวหารด้านการอธิบายของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) ก็จะยิ่งมีความหมายที่ลึกซึ้งมากไปอีก โดยที่โองการดังกล่าว อยู่ในซูเราะฮ์ อินซาน หรือซูเราะฮ์ดะฮฺร์ โองการที่ ๙ พระองค์ทรงมีพระดำรัสว่า

إنما نطعمکم لوجه الله لا تريد منكم جزاء ولا شگور )

“(พวกเขากล่าวว่า) แท้จริงเราให้อาหารแก่พวกท่าน โดยหวังความโปรด ปรานของอัลลอฮ์เรามิได้หวังการตอบแทนและการขอบคุณจากพวกท่านแด ประการใด”

กล่าวคือ ไม่ต้องการการตอบแทน และไม่ต้องการแม้แต่การขอบคุณ จะ "ให้" หรือ "ไม่ให้ สิ่งเหล่านี้ไม่มีผลใดๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงความแน่วแน่ใน การปฏิบัติภารกิจของเขา การทำให้เขาหมดกำลังใจ หรือการจะทำให้เขามี กำลังใจ ก็ไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น

นี่คือลักษณะอันหนึ่งของบุคลากรของอัลลอฮ์(ซบ) นี่คือบุคลิกหนึ่ง ของบุรุษแห่งพระเจ้าอย่างแท้จริง บุคคลเหล่านี้เท่านั้นที่มนุษย์ควรจะปฏิบัติตาม ดังที่อัลลอฮ์(ซบ) ได้ทรงตรัสไว้ในซูเราะฮ์ยาซีนโองการที่ ๒๐-๒๑ ว่า

وجاء من أقصى المدينة رجل يسعى
قال يا قوم اتبعوا المرسلين

اتبعوا من لا يسالكم أجراوهم مهتدون “
เมื่อมีชายคนหนึ่งจากสุดหัวเมืองวิ่งมาอย่างรีบเร่ง และกล่าวว่า โอ้ชาว เมือง จงปฏิบัติตามศาสนาทูตของอัลลอฮ์จงตามผู้ซึ่งไม่ขอรางวัลใดๆ จาก พวกท่าน และในขณะเดียวกันพวกเขาก็อยู่ในทางน้ำ"

การบอกเหตุผลว่า จงปฏิบัติตามผู้ที่ไม่ขอรางวัลใดๆ จากมวลมนุษย์ในรูปลักษณะของรางวัล หมายความว่า การโต้ตอบของมนุษย์ไม่มีผลใดๆ ใน ความตั้งใจต่อภารกิจของเขา

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ข้าพเจ้าก็ใคร่จะยกตัวอย่างแห่งยุคสมัย ที่พิสูจน์ว่า "ริญาลุลลอฮ์” (วีระบุรุษแห่งอัลเลาะฮ์) นั้นมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย

กำไรแห่งชีวิตที่ข้าพเจ้าได้รับเมื่อช่วงอยู่ในสาธารณรัฐอิสลามแห่ง อิหร่าน ก็คือได้รับฟังเรื่องราวต่างๆ มากมาย วันหนึ่งอาจารย์ของข้าพเจ้าได้เล่า เหตุการณ์หนึ่งให้ฟังว่า วันที่ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ) อยู่ที่เมืองกุม ซึ่งเป็นช่วงที่ เพิ่งปฏิวัติสำเร็จใหม่ๆ คนจำนวนนับแสนร้องตะโกนอยู่หน้าบ้านท่าน กำมือ กำหมัด ตะโกนสโลแกนว่า “ผู้ทำลายเจว็ดคือโคมัยนี" (เปรียบอิมามโคมัยนี้ (รฎ) เหมือนท่านศาสดาอิบรอฮีม (อ)

คนที่อยู่ใกล้ๆ เล่าให้ฟังว่า หนึ่งในอุละมาอี้ที่อยู่ใกล้อิมามโคมัยนี้ (รฎ) ถามว่า ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง? อิมามโคมัยนี (รฎ) ตอบภาษาฟารซีว่า “ฮิช” แปลว่า “ไม่มีอะไรเลย” (Nothing) แล้วอิมามโคมัยนี (รฎ) ก็หันหน้า มายังผู้ถาม และบอกว่า “ถ้าสโลแกนนี้เปลี่ยนว่า โคมัยนีจงพินาศ ฉันก็มีความ รู้สึกอันเดียวกัน
แม้เขาจะด่าสักพันครั้งฉันก็ยังรู้สึกเท่าเดิม” นี่คือความหมายของคำว่า
“อิตตะบิอู” !

และเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ว่าจะเกิดเพียงครั้งเดียว หากแต่เกิดขึ้นหลาย สิบครั้ง เช่นอีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ลงจอด นักข่าวถามว่า “รู้สึกอย่างไรเมื่อได้กลับมาบ้านเกิด?" ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ) ตอบว่า “ฮิช” เพราะการต่อสู้อันนี้ท่านไม่ได้ฝันว่าจะได้กลับมาที่บ้านเกิด จะอยู่ที่นี่หรือ ที่ไหนๆ ก็เหมือนๆ กัน นี่คือลักษณะอันหนึ่งของนักสู้แห่งพระเจ้าที่จะต้องมี คุณสมบัติเช่นนี้

จะอยู่บ้านหรือไม่อยู่บ้านไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญ จนกระทั่งบางครั้งคน ทางบ้านต้องบอกนักข่าวว่า อย่าพยายามสัมภาษณ์อะไรที่มันลึกๆ เดี๋ยวคนจะไม่เข้าใจ เพราะว่ามนุษย์บนโลกนี้ต้องใช้เวลาอีกนานถึงจะเข้าใจความลึก ซึ่งภายในของพวกเขายังจะต้องชำระล้างอีกหลายรอบ !

ผู้เขียน San Navic