บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน) ตอนที่14
ช่วงเวลาที่ข้าพเจ้าพำนักอยู่ในเมืองอิสตันบูลตุรกีนั้น ข้าพเจ้าได้อยู่กับสัปบุรุษมัสญิดคนหนึ่ง โดยที่ข้าพเจ้าได้ให้ค่าตอบแทนเป็นเงินเล็กน้อยแก่เขา เขาเป็นคนที่มีอุปนิสัยห้าวหาญ อารมณ์ร้อน ซึ่งมีชื่อว่า มัรวาน (มัรวาน เป็นสาวกท่านหนึ่งของท่านศาสดามุฮัมหมัด) เขาจะภาคภูมิใจยิ่งที่ได้ชื่ออันนี้เพราะถือว่า เป็นชื่อที่เป็นสิริมงคล และเขายังได้พูดกับข้าพเจ้าอยู่เสมอว่า -: หากพระเจ้าทรงประทานลูกชายให้กับคุณก็จงตั้งชื่อนี้ให้กับลูก เพราะมัรวานเป็นหนึ่งในอัครสาวกที่ยิ่งใหญ่และเป็นนักรบของอิสลาม
ทุกคืนเขาจะเป็นคนที่เตรียมอาหารค่ำให้กับข้าพเจ้าเสมอและจะร่วมกินด้วยกัน ในวันศุกร์ข้าพเจ้าจะไม่ไปทำงาน “ตามทัศนะของมุสลิมถือว่า วันศุกร์เป็นวันอีดวันหนึ่ง” ส่วนวันอื่นๆ ก็จะไปทำงานตามปรกติ ข้าพเจ้าทำงานอยู่กับช่างไม้คนหนึ่งที่มีชื่อว่า คอลิด และได้รับค่าจ้างที่น้อยนิดโดยที่เขาจะให้ค่าจ้างเป็นรายสัปดาห์ ข้าพเจ้าจะทำงานเพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น
ช่วงว่างงานคอลิด (ผู้เป็นช่างไม้) ก็จะเล่าเรื่อง ชีวประวัติของคอลิด บินวะลีด อย่างเรื่อยเปื่อยไร้สาระให้ข้าพเจ้าฟังทุกครั้งว่าคอลิดคือสาวกคนหนึ่งของท่านศาสดาและเป็นผู้บุกเบิกประตูชัยให้กับอิสลาม เขายังได้พูดอีกว่าคอลิดได้ผ่านบททดสอบต่างๆ ได้อย่างดีและบางทีเขาพูดกับตัวเองด้วยความเศร้าเสียใจว่า -: สมัยที่อุมัร บินคอตต๊อบ เป็นผู้ปกครองนั้นได้ปลดคอลิดออกจากตำแหน่ง ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความไม่พึงพอใจต่อตัวเขา
คอลิดผู้เป็นช่างไม้มีอุปนิสัยที่เลวทรามและห้าวหาญอย่างสุดๆ แต่ทว่าเขาได้ไว้วางใจข้าพเจ้า โดยที่ข้าพเจ้าเองก็ไม่อาจรู้ด้วยว่าเพราะเหตุใด อาจเป็นเพราะว่าข้าพเจ้าเชื่อฟังเขาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเรื่องการงานภายในร้านหรือแม้แต่ในเรื่องราวของศาสนาซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยพูดจาถกเถียงใดๆ กับเขาเลย ก็อาจเป็นไปได้
ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าอยู่คนเดียวในร้าน เขาจะเรียกร้องให้ข้าพเจ้ามีการร่วมเพศสัมพันธ์กันแบบรักร่วมเพศ(ลิวาต)ซึ่งการกระทำลักษณะเช่นนี้ตามทัศนะของมุสลิมถือว่าเป็นบาปอย่างมหันต์ เหมือนกับที่เชคเคยสอนข้าพเจ้า แต่ทว่าเพราะธาตุแท้ของ คอลิดเป็นคนที่ไม่เอาศาสนาเท่าใด จึงไม่ค่อยจะให้ความสำคัญต่อบทลงโทษ
แต่ภาพลักษณ์ภายนอกนั้นเขาจะแสดงออกถึงการมีศาสนา โดยเฉพาะเมื่อได้อยู่กับเพื่อนฝูง เขาจะไปนมาซวันศุกร์ตลอดไม่เคยขาด แต่สำหรับวันอื่นๆ นั้นข้าพเจ้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาได้ทำการนมาซหรือไม่?
ข้าพเจ้าได้ปฏิเสธคำเชิญชวนอันนี้ของคอลิด และยังคิดด้วยว่า คอลิดคงเคยสำเร็จความใคร่ในลักษณะเช่นนี้กับคนงานบางคนของเขามาแล้วหลายราย เพราะข้าพเจ้าเห็นว่าจะมีชายหนุ่มที่หล่อเหลา ซึ่งเป็นคนงานของเขาคนหนึ่ง เดิมทีเป็นชาวยิวแต่เข้ารับอิสลาม จะเดินเข้าออกหลังร้านซึ่งเป็นที่นัดพบกับคอลิดเป็นประจำ ซึ่งทั้งสองได้อ้างว่าเพื่อไปดูความเรียบร้อยของคลังเก็บสินค้า แต่ข้าพเจ้าคิดว่าทั้งสองได้ไปร่วมสำเร็จความใคร่ในสถานที่แห่งนั้นอย่างแน่นอน
ข้าพเจ้าจะกินอาหารมื้อเที่ยงในร้าน และจะเดินไปนมาซที่มัสญิดและจะอยู่ในมัสญิดจนถึงเวลานมาซอัศรี หลังจากทำการนมาซอัศรีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินทางมุ่งหน้าไปยังบ้านของ เชคอะห์มัดทันที เพื่อเรียนคัมภีร์ อัล-กุรอาน ภาษาตุรกี และภาษาอาหรับ เป็นเวลา 2 ชั่วโมง
ทุกๆ วันศุกร์ ข้าพเจ้าจะให้ซะกาตแก่เขา ซึ่งอันที่จริงแล้วการให้ซะกาตของข้าพเจ้านั้นเสมือนเป็นการให้สินบนแก่เขาภายในตัว เพื่อสร้างความสัมพันธภาพที่ดีระหว่างเรา และเพื่อเขาจะได้สอนข้าพเจ้ามากยิ่งขึ้น