บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน) ตอนที่15
ข้าพเจ้ายอมรับว่าท่านเชคได้สอนคัมภีร์อัล-กุรอาน รากฐานของศาสนา ภาษาอาหรับ และ ภาษาตุรกี ให้กับข้าพเจ้าอย่างเต็มที่
วันเวลาได้ผ่านพ้นไป เชคก็รู้ว่าข้าพเจ้ายังมิได้แต่งงาน ก็เลยเสนอแนะให้แต่งกับลูกสาวของตนเอง แต่ทว่าข้าพเจ้าปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวและได้พูดกับเขาว่าข้าพเจ้ามิใช่ชายชาตรีดั่งที่คุณคิด (หมดสมรรถภาพทางเพศ) ซึ่งคำตอบนี้เป็นคำอ้างข้อสุดท้ายหลังจากที่เชคได้คะยั้นคะยอและข่มขู่ว่า หากไม่ยอมแต่งงานแล้วความสัมพันธ์ระหว่างข้าพเจ้ากับเขาต้องจบสิ้นลง เพราะเชคพูดว่า การแต่งงานคือแบบฉบับของท่านศาสดา และท่านศาสดาได้กล่าวว่า “ผู้ใดมิได้ปฏิบัติตามฉันเขาพวกนั้นมิใช่พวกของฉัน” ด้วยเหตุผลข้อนี้ ข้าพเจ้าจึงต้องโกหกเรื่องขึ้นมาและการโกหกนี้เองทำให้เชคต้องยอมรับ และความสัมพันธ์อันดีงามของเราก็กลับมาเหมือนดั่งเดิมอีกครั้ง
เป็นเวลา 2 ปีเต็มที่ข้าพเจ้าใช้ชีวิตอยู่ในเมืองอิสตันบูลตุรกี และแล้วก็ได้ขออนุญาตจากเชคเพื่อเดินทางกลับถิ่นฐาน แต่ว่าเชคไม่ยอมอนุญาต และยังได้พูดอีกว่าจะกลับบ้านเกิดไปทำไมอีกเล่า? ในเมื่อเมืองนี้มีปัจจัยต่างๆ นานัปการ ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงประทานมาทั้งทางด้านวัตถุ และทางธรรม (ศาสนา)
เชคยังพูดต่ออีกว่า เจ้าเคยกล่าวไว้ว่าเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่และไม่มีญาติพี่น้องมิใช่หรือ ? ดังนั้นเจ้าจงถือว่าที่นี่ คือบ้านเกิดเมืองนอนของเจ้าก็แล้วกัน ซึ่งเชคยังได้อ้อนวอนและโน้มน้าวให้ข้าพเจ้าอยู่ต่อไปอีกเพราะเชคมีความรัก ความผูกพันมากกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าเองก็เช่นกันทั้งรักและผูกพันกับเชคมาก แต่ทว่าด้วยภารกิจหน้าที่แห่งชาติที่มีอยู่นั้น จึงทำให้ข้าพเจ้าจำเป็นต้องกลับยังกรุงลอนดอนเพื่อรายงานความคืบหน้า เหตุการณ์ความเป็นอยู่ของศูนย์กลางการปกครองอย่างละเอียดและก็รับคำสั่งใหม่ในการดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป