บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน ตอนที่30
  • ชื่อ: บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน ตอนที่30
  • นักเขียน:
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 20:3:7 1-9-1403

บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน ตอนที่30


สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม
มีอยู่วันหนึ่งข้าพเจ้าได้ทำการสนทนากับมุฮัมหมัด ในประเด็นหัวข้อว่าด้วยการถือศีลอด ข้าพเจ้าได้พูดว่า: อัลกุรอานได้กล่าวว่า: และการที่พวกเจ้าจะถือศีลอดนั้นย่อมเป็นสิ่งดีกว่าสำหรับพวกเจ้า ซึ่งในตัวบทของโองการมิได้กล่าวถึงการเป็นสิ่งวาญิบในการถือศีลอดแต่อย่างใด ดังนั้นการถือศีลอดในทัศนะของอิสลามถือว่าเป็นสิ่งมุสตะฮับ ควรที่จะปฏิบัติ มิใช่เป็นสิ่งวาญิบ
 มุฮัมหมัดได้ปฏิเสธและโต้แย้งอย่างแรงต่อคำพูดครั้งนี้ของข้าพเจ้า เขาพูดว่า: คุณต้องการให้ผมหลุดออกจากศาสนาอย่างนั้นหรือ!
ข้าพเจ้าได้พูดว่า: โอ้บุตรของวาฮับ แท้จริงศาสนานั้นคือ ความบริสุทธิ์ใจ ความสงบสุขทางจิตวิญญาณและการไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
 ท่านศาสดาได้กล่าวว่า: ศาสนาคือความรัก และอัล-กุรอานก็กล่าวว่า:  จงทำการนมัสการพระผู้อภิบาล จนกระทั่งสู่เจ้ามีความเชื่อมั่น (ซูเราะฮ์อัลฮิจร์ โองการ 99)
 ดังนั้นเมื่อมนุษย์ได้เข้าสัมผัสถึงความเชื่อมั่นยังพระองค์และวันกิยามัตด้วยกับหัวใจที่บริสุทธิ์ และมีความประพฤติที่ดีงามแล้ว ถือว่าเขาผู้นั้นคือมนุษย์ที่ประเสริฐยิ่ง การอธิบายเหตุผลต่างๆ ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ก็ทำให้มุฮัมหมัดต้องส่ายหน้า เป็นการบ่งบอกถึงความไม่พึงพอใจ
 ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าพูดกับเขาว่าการนมาซเป็นสิ่งที่ไม่วาญิบ
เขาถามว่า:เพราะสาเหตุใด?
ข้าพเจ้าพูดว่า:เพราะอัล-กุรอานได้กล่าวว่า:จงทำการนมาซเพื่อรำลึกถึงฉัน (ซูเราะฮ์ฏอฮา โองการ 14)
 ดังนั้นคำว่านมาซในที่นี้คือการรำลึกถึงพระองค์ ซึ่งคุณก็สามารถแทนการนมาซได้ด้วยรูปแบบอื่นที่เป็นการรำลึกถึงพระองค์อย่างสม่ำเสมอก็ได้
เขาพูดว่า:จริงอยู่ เพราะว่าผมยังเคยได้ยินจากคำพูดของอุลามาบางคนที่เขาทำการรำลึกถึงพระองค์ในรูปแบบอื่นที่มิใช่รูปแบบของการนมาซ
 จากคำพูดของมุฮัมหมัดครั้งนี้ มันได้สร้างความปลื้มปิติยินดีแก่ข้าพเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงได้เสริมเอาทัศนะของข้าพเจ้าขึ้นมาอีกเพื่อเป็นการเน้นย้ำแก่เขา และเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่า สามารถมีอิทธิพลและครอบงำเหนือสติปัญญาของเขา
หลังจากจบการสนทนาในครั้งนี้แล้ว ข้าพเจ้าได้พบเห็นว่า เขานั้นได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างมาก กลายเป็นคนที่ไม่เคร่งครัดและไม่ให้ความสำคัญต่อการนมาซ บางครั้งก็จะนมาซและบางครั้งก็ละทิ้ง โดยเฉพาะนมาซซุบห์ที่เขาจะละทิ้งเสมอ ก็เพราะว่า เราจะอยู่ร่วมสนทนาจนดึกเกือบทุกคืน จึงทำให้เขานั้นอ่อนเพลีย และล้า จึงไม่สามารถตื่นขึ้นมานมาซซุบห์ได้ วิธีการและกลยุทธ์เช่นนี้แหละที่ข้าพเจ้านำเอามาใช้เพื่อดึงความศรัทธาให้ออกจากตัวเขาทีละนิดทีละน้อย
..............โปรดติดตามตอนต่อไป