12อิม่ามกับ12คอลีฟะฮ์คือเรื่องเดียวกันใช่ไหม EP : 10
บรรดาฮะดีษ 12 ผู้นำที่ผมหยิบยกมาให้ท่านอ่าน มีเนื้อหาที่อยู่ในความหมายทำนองเดียวกัน
ฮะดีษดังกล่าวนั้น มีทั้งกล่าวอย่างสังเขป มีทั้งระบุสถานที่ปราศัยและมีเนื้อหาให้วิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
1.จะมีผู้นำผู้ปกครอง 12 คน หลังจากท่านนบี(ศ)เสียชีวิต
2. ผู้นำผู้ปกครอง 12 คนนั้นมาจากกุเรช
3. ผู้นำผู้ปกครอง 12 คนดังกล่าว จะได้เป็นผู้ชี้นำประชาชาติอิสลาม
4.อิสลามจะมีความเข้มแข็งและมีเกียรติมีศักด์ศรีอยู่ใน12ผู้นำผู้ปกครองนี้
#หากท่านกล่าวว่า
12 คอลีฟะฮ์หรือ12อะมีรในฮะดีษที่กล่าวมา ไม่ใช่ 12 อิม่ามที่มาจากอะฮ์ลุลบัยต์นบี
เพราะมีอะฮ์ลุลบัยต์นบี 2 คนเท่านั้นที่ได้เป็นผู้ปกครองคือ อิม่ามอะลี และอิม่ามฮาซัน
ส่วนอะฮ์ลุลบัยต์นบีคนอื่นถูกตระกูลอุมัยยะฮ์และอับบาซียะฮ์แย่งชิงไป
#เราขอชี้แจงด้วยฮะดีษซอฮิฮ์สองบทนี้คือ
1.ท่านนบี(ศ)ได้ปราศรัยต่อหน้าพวกเราที่อะรอฟ๊าตว่า
لَا يَزَالُ هَذَا الْأَمْرُ عَزِيزًا مَنِيعًا ظَاهِرًا عَلَى مَنْ نَاوَأَهُ حَتَّى يَمْلِكَ اثْنَا عَشَرَ كُلُّهُمْ
กิจการของประชาชาติอิสลามยังคง >มีเกียรติ >มีสภาพมั่นคง >มีชัย >เหนือผู้ที่แย่งชิงอำนาจไปจากเขา จนกว่าจะมี 12 ผู้นำขึ้นมากุมอำนาจทุกคน
มุสนัดอะหมัด ฮะดีษที่ 20910 ฮะดีษซอฮิ๊ฮ์
2.ท่านนบี(ศ)ได้กล่าวที่ฮัจญะตุลวะดาอ์ว่า
إِنَّ هَذَا الدِّينَ لَنْ يَزَالَ ظَاهِرًا عَلَى مَنْ نَاوَأَهُ لَا يَضُرُّهُ مُخَالِفٌ وَلَا مُفَارِقٌ حَتَّى يَمْضِيَ مِنْ أُمَّتِي اثْنَا عَشَرَ خَلِيفَةً
แท้จริงศาสนา(อิสลาม)นี้ ยังคง>มีชัยเหนือ >ผู้ที่ชิงอำนาจไปจากเขา >ทั้งผู้ต่อต้านและผู้แยกตัวออกจากเขา จะไม่อาจทำอันตรายแก่เขาได้< จนกว่ามันจะดำเนินไปในประชาชาติของฉันครบ 12 ผู้นำ
มุสนัดอะหมัด ฮะดีษที่ 20833 ฮะดีษซอฮิ๊ฮ์
#เมื่อนบีมุฮัมมัด(ศ)#ได้สั่งเสียต่ออุมมัตของท่านว่า
إِنِّي تَارِكٌ فِيكُمْ خَلِيفَتَيْنِ كِتَابُ اللَّهِ وَأَهْلُ بَيْتِي
แท้จริง ฉันได้ทิ้งไว้ในหมู่พวกท่านสอง>#คอลีฟะฮ์<คือ คัมภีร์อัลกุรอ่าน และ #อะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน
ฮะดีษซอฮิฮ์นี้ระบุชัดว่า #ตำแหน่งคอลีฟะฮ์หลังจากนบีคืออะฮ์ลุลบัยต์นบี
แต่ในประวัติศาสตร์อิสลามบันทึกว่า
ตระกูลอุมัยยะฮ์ และ ตระกูลอับบาซียะฮ์ ได้แย่งชิงตำแหน่งคอลีฟะฮ์นี้ไปจากอะฮ์ลุลบัยต์นบี
#ด้วยเหตนี้ท่านนบีจึงกล่าวที่อะรอฟ๊าตและที่ฮัจญะตุลวะดาอ์ว่า
กิจการของประชาชาติอิสลาม ยังคง >มีเกียรติ >มีสภาพมั่นคง >มีชัย >เหนือผู้ที่แย่งชิงอำนาจไปจากเขา จนกว่าจะมี 12 ผู้นำขึ้นมากุมอำนาจทุกคน
และศาสนา(อิสลาม) ยังคง>มีชัยเหนือ >ผู้ที่ชิงอำนาจไปจากเขา >ทั้งผู้ต่อต้านและผู้แยกตัวออกจากเขา จะไม่อาจทำอันตรายแก่เขาได้<
#กล่าวคือ
#แม้อะฮ์ลุลบัยต์นบีไม่ได้นั่งบัลลังก์ปกครองประชาชน
แต่พวกเขาคือคอลีฟะฮ์นบีอย่างถูกต้อง >มีเกียรติ >เหนือผู้ที่แย่งชิงอำนาจการปกครองไปจากพวกเขา
>ทั้งผู้ต่อต้านและผู้แยกตัวออกไปจากเขา จะไม่อาจทำอันตรายแก่พวกเขาได้<
ในประวัติศาสตร์เราจะเห็นได้ว่า
มีทั้งผู้ที่ต่อต้านอะฮ์ลุลบัยต์นบี และ ผู้ที่แยกตัวออกจากอะฮ์ลุลบัยต์นบีไปเข้าข้างฝ่ายบนีอุมัยยะฮ์และบนีอับบาซียะฮ์มากมาย
ประเด็นสำคัญคือ ท่านนบีกล่าวว่า ทั้งสองพวกนั้นทำอันตรายต่อตำแหน่งคอลีฟะฮ์ของอะฮ์ลุลบัยต์นบีไม่ได้
เพราะตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน มีมุสลิมจำนวนมากที่เชื่อตามท่านนบีว่า
อะฮ์ลุลบัยต์คือ คอลีฟะฮ์ของท่านนบีที่แท้จริง ตราบจนถึงวันสิ้นโลก
และตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ก็มีมุสลิมจำนวนมากที่ต่อต้านและปฏิเสธตำแหน่งคอลีฟะฮ์ของอะฮ์ลุลบัยต์ ตามที่นบีสั่งเสียเอาไว้ในฮะดีษสองคอลีฟะฮ์