5 คำถามชวนคิด อาจทำให้ชีวิตของท่านเปลี่ยนไปตลอดกาล
1) หากชีอะห์ถูกต้องทำไมจึงเป็นคนส่วนน้อยเมือเทียบกับซุนนี ?
มักมีคนตั้งคำถามอยู่เสมอว่า หาก "ชีอะห์" คือ มัซฮับที่ถูกต้องที่สุด ทำไมมุสลิมส่วนมาก "ซุนนีมัซฮับ" ละ" ?
หนึ่งในคำตอบที่เป็นสัจพจน์และตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริงมากที่สุด ก็คือ "จำนวนมากไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความถูกต้องเสมอไป" และอัลกุรอานก็ได้ยืนยันถึงสิ่งนี้ได้เป็นอย่างดี ดังที่ปรากฏในคำภีร์อัลกุรอานว่า
أَكْثَرَهُمْ لَا يَعْلَمُونَ
ส่วนมากของพวกเขา(มนุษย์) เป็นผู้ไม่รู้
انعام /37 ، الأعراف /131 ، الأنفال /34 ، يونس /55
อัลกุรอาน บทอัลอันอา- 3 อัลอะอ์รอฟ - 131 อัลอัมฟาล-34 ยูนูส-55
أَكْثَرُهُمْ لَا يَعْقِلُونَ
ส่วนมากของพวกเขา(มนุษย์)จะไม่เป็นผู้ที่ไตร่ตรอง
العنكبوت / 63، و الحجرات /4
อัลกรุอาน บทอัลอังกะบูต-63 อัลฮุจร็อต-4
และที่แน่ ๆหากยึดคนส่วนมากเป็นที่ตั้งของความถูกต้อง แน่นอนว่า ศาสนาอิสลามก็ไม่ใช่ศาสนาที่ถูกต้องที่สุด เพราะตามสถิติประมาณการว่า ประชากรโลกมีจำนวนราวๆ 7,300 ล้านคน เมื่อ ค.ศ. 2015 และศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลก ได้แก่ ศาสนาคริสต์ ตามมาด้วยศาสนาอิสลาม ซึ่งหากคิดเป็นเปอร์เซ็น ศาสนาคริสต์ มี 33 % ของประชากรโลก อิสลามอยู่ที่ 21% ของประชากรโลกทั้งหมด
เห็นไหมว่า "จำนวนมากไม่ได้เป็นตัววัดถึงความถูกต้องเสมอไป เพราะมิเช่นนั้น มุสลิมเราจำเป็นต้องเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์จึงจะถูกต้องกว่า"
ส่วนประเด็นที่ว่า ทำไมจำนวนคนของซุนนีมากกว่าชีอะห์เรื่องนี้มีหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งสักวันผมจะทำการวิเคราะห์เรื่องนี้เป็นการเฉพาะเลยครับ อินชาอัลลอฮ์
เมื่อจำนวนมากไม่ใช่ตัวชี้วัดความถูกต้อง แล้วอะไรคือตัวชี้วัดละ......? มาดูกันในคำถามที่สองต่อไป
2) อะไรคือตัวชี้วัดถึง "ความถูกต้อง"
ในศาสนาอิสลามมุสลิมทุกๆคน(ไม่ว่าจะอยู่ในมัซฮับใด)เชื่อในอัลลอฮ์สูงสุด และเชื่อว่า มุฮัมมัด (ศ็อลฯ) คือศาสดาของพระองค์ที่มาพร้อมกับคัมภีร์อัลกุรอาน อันเป็นรัฐธรรมนูญสูงสุดในการปกครองโลก ฉะนั้น เมื่อมุสลิมเกิดข้อขัดแย้งขึ้นในหมู่พวกเขาก็ควรยึดเอาสิ่งที่ทุกคนเชื่อเหมือนกันมาเป็นที่ตั้งก่อน พระองค์ อัลลอฮ์ ก็ทรงกำชับไว้เช่นกันว่า
فَإِنْ تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللَّهِ وَالرَّسُولِ إِنْ كُنتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِر
النساء/59
“ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในเรื่องหนึ่งเรื่องใด ก็จงย้อนกลับไปยังอัลลอฮ์และรอซูลเถิด หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันสุดท้าย” บทอันนิซาอ์ -59
ฉะนั้น ตัวชี้วัดความถูกต้องที่มุสลิมทุกคนต้องให้ความสนใจ ก็คือ คำสั่งจากอัลลอฮ์ที่มอบผ่านรอซูล และคัมภีร์ของพระองค์ แล้วรอซูล และคัมภีร์อัลกุรอานกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้อย่างไร มาดูในคำถามต่อไปครับ.....
3) อัลลอฮ์ (ซ.บ. ) ศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) และพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวถึงกลุ่มชน หรือมัซฮับที่จะได้เข้าสู่สรวงสวรรค์ไว้บ้างหรือไม่ ?
หนึ่งในบรรดาอายะฮ์อัลกุรอานที่กล่าวถึงกลุ่มชนที่จะได้รับชัยชนะ และประสบความสำเร็จในวันเเห่งการตัดสิน และจะได้เข้าสู่สรวงสวรรค์ของพระองค์ ก็คือ ซูเราะห์อัลบัยยินะฮ์ อายะฮ์ที่ 7 โดยพระองค์ทรงตรัสว่า
إِنَّ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ أُولَٰئِكَ هُمْ خَيْرُ الْبَرِيَّةِ
แท้ที่จริง บรรดาผู้ซึ่งเป็นผู้ศรัทธา และเป็นผู้ประกอบคุณงามความดีทั้งหลาย กลุ่มชนเหล่านั้น คือ กลุ่มชน "คัยรุลบะรียะฮ์" นั่นเอง
ในอายะฮ์นี้ อัลลอฮ์บอกว่า "กลุ่มชนที่เป็นผู้ศรัทธที่แท้จริง" และ "กลุ่มชนที่เป็นผู้ประกอบคุณงามความดีอย่างแท้จริง" ก็คือ กลุ่มชน "คัยรุลบะรียะฮ์" และกลุ่มชนคัยรุลบะรียะฮ์ พวกเขาคือ "กลุ่มชนที่ถูกสัญญาไว้ว่าจะได้รับชัยชนะและเข้าสู่สรวงสวรรค์ของพระองค์"
แล้วใครกันละ คือ กลุ่มชน “คัยรุลบะรียะฮ์” ที่ถูกกล่าวไว้ในอายะฮ์นี้ ? มาดูคำเฉลยของเรื่องนี้ในคำถามต่อไปครับ
4) ใครคือกลุ่มชน "คัยรุลบะรียะฮ์" ที่ถูกสัญญาไว้ว่าจะได้รับชัยชนะในวันแห่งการตัดสิน ?
ปราชญ์ชาวซุนนีและชีอะห์บันทึกเหมือนกันว่า ความหมายของ "คัยรุลบะรียะฮ์" ในอายะที่ 7 ของซูเราะห์อัลบัยยินะฮ์ คือ "อาลี บินอบีฏอลิบ และชีอะห์ของท่าน"
ท่านซูยูฏี ปราชญ์ผู้ลือนาม และปราชญ์ท่านอื่นๆอีกมากมายของชาวซุนนะห์ได้บันทึกไว้ว่า
قال تعالي ( إِنَّ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ أُولَٰئِكَ هُمْ خَيْرُ الْبَرِيَّةِ )
لما نزلت هذه الآية قال الرسول لعلي يا علي ( ع ) هم أنت و شيعتك
الدرالمنثورـ سيوطي ـ ج 6 ، ص 379؛ تفسير الطبري ج 3 ، ص 146
เมื่ออายะ " إِنَّ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ أُولَٰئِكَ هُمْ خَيْرُ الْبَرِيَّةِ " ถูกประทานลงมา ท่านรอซูล(ศ็อลฯ) กล่าวกับอาลีว่า พวกเขา(กลุ่มชนคัยรุลบะรียะฮ์) คือ เจ้า และชีอะห์ของเจ้า
(อัดดุรรุลมันษูร -ซุยูฏี เล่ม 6 หน้า 379 และ ตัฟซีรอัลฏอบะรี เล่ม 3 หน้า 146)
รายงานจากอิบนิอับบาสว่า
وعن ابن عباس ( رض ) قال : لما نزلت هذه الآية : ان الذين امنوا وعملوا الصالحات أولئك هم خير البرية قال : لعلي هو أنت وشيعتك
หนังสือ "ตารีคอัลบัฆดาดี อีกหนึ่งตำราของชาวซุนนีบันทึกคำพูดของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อล) ไว้ว่า
عن الشعبي عن علي قال : قال رسول الله صلي الله عليه وسلم : " أنت وشيعتك في الجنة "
تاريخ بغداد ج12، ص 284، ذيل ترجمه عصام بن الحكم بن عيسي بن زياد بن عبد الرحمن رقم 6731
สายรายงานจาก อัชชะบี รายงานจากท่านอาลีว่า ท่านรอซูล กล่าวว่า "เจ้า โอ้อาลี และชีอะห์ของเจ้าจะได้อยู่ในสรวงสวรรค์"
(ตารีค อัลบัฆดาด เล่ม 12 หน้า 284 )
แน่นอนทุกคน คงจะรู้จักท่านอิมามอาลี (อ.) เป็นอย่างดี ท่าน คือคนที่ท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อล) ยืนยันไว้ว่า
إنّه أوّلكم إيماناً معي
เขา คือ บุคคลแรกที่ศรัทธาต่อฉันในหมู่พวกเจ้า
وأوفاكم بعهد اللّه
เขา คือ คนที่ยึดมั่นในคำสัญญาที่มีต่ออัลลอฮ์มากที่สุดในหมู่พวกเจ้า
وأقومكم بأمر اللّه
เขา คือ คนที่ยืนหยัดอย่างมั่งคงที่สุดในคำสั่งของอัลลอฮ์ในหมู่พวกเจ้า
وأعدلكم في الرعيّة
เขา คือ คนบุคคลที่ทรงธรรมที่สุดในหมู่พวกเจ้า
وأقسمكم بالسويّة
เขา คือ คนที่มีความยุติธรรมที่สุดในหมู่พวกเจ้า
وأعظمكم عند اللّه مزية
เขา คือ ผู้ที่ยิ่งใหญ่และมีเกียรติที่สุดในหมูพวกเจ้า
قال: وفي ذلك الوقت نزلت فيه: (إِنَّ الَّذِينَ ءَامَنُوا وَعَمِلُوا الصَّلِحَتِ أُولَئِكَ هُمْ خَيْرُ الْبَرِيَّةِ)
หลังจากที่ท่านนบี (ศ็อลฯ) ได้กล่าวประโยคข้างต้นเสร็จสิ้นลง ในขณะนี้เองที่อายะฮ์ "คัยรุลบะรียะฮ์" ถูกประทานลงมา
كان أصحاب محمد صلي اللّه عليه وسلّم إذا أقبل علي قالوا: قد جاء خير البرية
และหลังจากอายะฮ์นี้ถูกประทานลงมาให้อาลี ทุกๆครั้งที่บรรดาศ่อฮาบะฮ์เห็นท่านอาลีเดินมาพวกเขาก็จะกล่าวกันว่า "คัยรุลบะรียะฮ์" กำลังเดินมา
อ้างอิงจากหนังสือของชาวซุนนี ตารีค มะดีนะ ดะมิชค์ เล่ม 42 หน้า 371
เมื่อทุกคนรู้จักท่านอาลี บินอบีฏอลิบแล้ว และชีอะห์ของท่านละคือใครกัน ? ที่อัลลอฮ์ทรงรับรองสวรรค์ไว้สำหรับพวกเขา เรามาหาคำตอบได้ในคำถามต่อไปนะครับ......
5) ใครคือชีอะห์อาลี ?
ในอายะฮ์ "คัยรุลบะรียะฮ์" ถูกยืนยันแล้วว่า บุคคลที่จะได้รับชัยชนะในวันแห่งการตัดสิน ก็คือ "อาลี และชีอะห์ของอาลี" คำถามในตรงนี้ก็คือ ใครที่ถูกเรียกว่า ชีอะห์อาลี ?
ในตำราฮะดีษ และประวัติศาสตร์ของชาวซุนนีได้กล่าวถึงชีอะห์ของอาลี (อ. )ไว้เช่นนี้ว่า
أمير المؤمنين علي بن أبي طالب قال قال رسول الله ( صلي الله عليه وسلم ) يا علي إذا كان يوم القيامة يخرج قوم من قبورهم لباسهم النور علي نجائب من نور أزمتها يواقيت حمر تزفهم الملائكة إلي المحشر فقال علي تبارك الله ما أكرم هؤلاء علي الله قال رسول الله ( صلي الله عليه وسلم ) يا علي هم أهل ولايتك وشيعتك ومحبوك يحبونك بحبي ويحبوني بحب الله هم الفائزون يوم القيامة
تاريخ مدينة دمشق ج42، ص 332)
ท่านอะมีรุลมุอ์มีนีน อาลี อิบนิ อบีฏอลิบ กล่าวว่า วันหนึ่งท่านรอซุลุลอฮ์ได้กล่าวกับฉันว่า
“โอ้อาลี เมื่อวันกิยามะฮ์ได้อุบัติขึ้น จะมีชนกลุ่มหนึ่งถูกนำออกมาจากหลุมฝังศพของพวกเขาในสภาพที่เสื้อผ้าของพวกเขานั้นเต็มไปด้วย "นูร" รัศมีที่เปล่งประกายได้ขี่บนหลังอูฐที่มีรัศมีอันเจิดจรัส และอานของอูฐจะถูกประดับประดาด้วยหินทับทิมสีเเดงเจิดจร้า”
ฉันได้กล่าวกับรอซูลว่า "พวกเขา ช่างเป็นกลุ่มชนที่อัลลอฮ์ทรงให้เกียรติพวกเขามากมายยิ่งนัก"
ในขณะนั้นเอง ท่านนบี (ศ็อลฯ) จึงกล่าวตอบว่า "พวกเขา คือ กลุ่มชนที่ยอมรับในวิลายะฮ์(อำนาจการปกครอง)ของเจ้า และยอมรับในความเป็นอิมาม (ตำแหน่งผู้นำ)ของเจ้า พวกเขา คือชีอะห์ และมุฮิบบีน(ผู้ที่มีความรัก)ของเจ้า" เพราะเจ้ารักฉัน พวกเขาจึงรักเจ้า และอัลลอฮ์จะทำให้พวกเขา(ชีอะห์อาลี)ประสบความสำเร็จในวันกิยามะฮ์
(ตารีค มะดีนะห์ ดิมัชก์ เล่ม 42 หน้า 332)
จากคำกล่าวของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ข้างต้น ชีอะห์ของท่านอิมามอาลี(อ. )อย่างน้อยต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
- กลุ่มชนที่ยอมรับในวิลายะฮ์(อำนาจ)ของท่านอิมามอาลี (อ.)
- กลุ่มชนที่ยอมรับในการเป็นอิมามของท่านอาลี (อ.)
- เป็นผู้ที่รักในอิมามอาลี (อ.) อันนำไปสู่ความรักที่แท้จริงต่อท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ)
สรุปใจความทั้งหมด...
หากวันนี้ ท่านยังไม่ไช่ผู้ที่ยอมรับในวิลายะฮ์ของอาลี
หากวันนี้ ท่านยังไม่ใช่ผู้ที่ยอมรับในความเป็นอิมามของอาลี
สิ่งนี้ย่อมแสดงว่า "ณ ตอนนี้ ท่านก็ไม่ใช่ชีอะห์ของอาลีอย่างแน่นอน" แต่หากท่านมีคุณสมบัติที่กล่าวมา ท่านคือ ผู้ที่จะประสบกับชัยชนะในวันแห่งการตัดสิน
บทความโดย เอกภาพ ชัยศิริ