มนุษยชาติกำลังรอคอยอะไร?
มนุษยชาติกำลังรอคอย... กำลังรอคอยอะไรหรือ กำลังรอคอยการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่ง กำลังรอคอยปรากฏการณ์และเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ ทำไมมนุษยชาติจึงกำลังรอคอย ทำไมมนุษยชาติจึงอยู่ในการรอคอยเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้... มันคือเหตุการณ์อะไรหรือที่ทำให้มนุษยชาติเป็นผู้รอคอยการปรากฏขึ้นของมัน!
มนุษยชาติกำลังรอคอยอะไร?
นี่คือคำถามที่สำคัญมากสำหรับผู้มีปัญญา ผู้มีความเข้าใจในหมู่มนุษยชาติ บรรดาเกจิและผู้เชี่ยวชาญของหมู่ชนและประชาชาติทั้งหลาย นับจากยุคเริ่มแรกของประวัติศาสตร์มนุษยชาติจวบจนถึงปัจจุบัน ที่ตั้งคำถามนี้สำหรับตนเองและสำหรับมนุษย์ผู้มีสติปัญญาและนักคิดคนอื่นๆ ตลอดมา แต่ทว่าสำหรับแรงบันดาลใจในการหยิบยกและการนำเสนอคำถามที่สำคัญเหล่านี้ สามารถสรุปได้ในรูปต่างๆ ต่อไปนี้
แรงบันดาลใจสำหรับคำถาม
แรงบันดาลใจประการแรกที่ทำให้เกิดคำถามเช่นนี้ขึ้น คือความไม่พึงพอใจต่อสภาพที่กำลังดำเนินอยู่ ความรู้สึกไม่พึงพอใจดังกล่าวนี้ได้ปกคลุมอยู่ในส่วนใหญ่ของประชาคมของมนุษยชาติ ที่เกิดจากการพบเห็นการถูกเหยียบย่ำทำลายสิทธิต่างๆ ของเพื่อนมนุษย์ การล่วงละเมิดและความไร้ซึ่งความยุติธรรมที่กำลังประสบกับมนุษย์ส่วนใหญ่ ที่กำลังบีบคั้นพวกเขาอยู่ด้วยความทุกข์ทรมาน ความรู้สึกที่แสนขมขื่นในความไม่ราบรื่นต่างๆ ของการดำเนินชีวิตของมนุษยชาตินี้เองที่ทำให้พวกเขามีมีความหวังและความมุ่งมาตรปรารถนาต่ออนาคต ที่พวกเขาจะหลุดพ้นออกจากความไม่ราบรื่นและความทุกข์ยากต่างๆ ดังนั้นพวกเขากำลังรอคอยวันใหม่ รอคอยอนาคตที่สดใสที่ปราศจากความทุกข์ยากและความขมขื่น
แรงบันดาลใจประการที่สองของการรอคอยของมนุษย์ คือความไม่พึงพอใจต่อการพัฒนาการและวิวัฒนาการสู่ความสมบูรณ์ของพวกเขา จำนวนมากมายจากมวลมนุษย์ที่บรรลุสู่ความสมบูรณ์แล้ว ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในทุกยุคสมัยและอยู่ในทุกสภาพการณ์ของวัฒนธรรมและอารยธรรมแห่งมนุษยชาตินั้น พวกเขาจะมุ่งแสวงหาสภาพการณ์ที่ดีกว่าและเหนือกว่าขึ้นไป พวกเขาไม่พอใจแค่เพียงสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ ดังนั้นพวกเขาจะมุ่งแสวงหาอนาคตที่สดใสกว่า และเฝ้ารอคอยด้วยความหวังต่อสิ่งดังกล่าว
การรอคอยอันศักดิ์สิทธิ์
คนอีกกลุ่มหนึ่ง เนื่องจากความไม่พอใจต่อสถานภาพที่ดีอยู่แล้วของตนเอง พวกเขาก็กำลังรอคอยเช่นเดียวกัน พวกเขามีแรงบันดาลใจที่สูงส่งกว่าคนสองกลุ่มแรก ทั้งนี้เนื่องจากมนุษย์เรานั้นมีศักยภาพ มีความสามารถและมีขุมคลังอันเป็นต้นทุนที่ชวนพิศวงอยู่ในตัวเอง พวกเขาอาจที่จะรู้สึกถึงความไม่พอเพียงต่อสถานภาพที่เป็นอยู่ของตนเอง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถสร้างวัฒนธรรมและอารยธรรมทางสังคมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่อยู่ในระดับสูงสุดของตนเองได้แล้วก็ตาม แต่เนื่องจากพวกเขาเห็นว่าสถานภาพอันยิ่งใหญ่ของความเป็นมนุษย์ของพวกเขานั้นควรที่จะก้าวไกลไปได้มากกว่านั้น ดังนั้นสภาพดังกล่าวจึงไม่อาจทำให้พวกเขารู้สึกพอเพียงและพึงพอใจได้ ในอีกด้านหนึ่งการพัฒนาและความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การครอบครองจักรวาลอันยิ่งใหญ่นี้ไม่อาจทำให้พวกเขาพึงพอใจต่อสถานภาพที่พวกเขาสร้างขึ้นสำหรับตนเองได้
ความไม่เพียงพอและความรู้สึกไม่พึงพอใจดังกล่าว มีรากฐานที่มาจากความเชื่อและความโน้มเอียงของมนุษย์ไปยังสิ่งที่อยู่เบื้องหลังโลกแห่งธรรมชาติและสัญชาติญาณแห่งการสร้าง (ฟิตเราะฮ์) ของตนเอง ด้วยกับสัญชาติญาณอันบริสุทธิ์ที่มีอยู่ในตัวมนุษย์นี่เองที่ทำให้มนุษยชาติไม่พึงพอใจต่อสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ และต่างอยู่ในการรอคอยวันใหม่และอนาคตที่สดใสกว่าที่พระผู้เป็นเจ้าจะทรงประทานให้หน้าต่างแห่งความหวัง
ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยแรงบันดาลใจใดๆ ก็ตาม มนุษยชาติต่างอยู่ในการรอคอยวันใหม่และอนาคตที่สดใสกว่าวันนี้อยู่ตลอดเวลา วันใหม่ที่ปราศจากความทุกข์ยากและความขมขื่น วันใหม่สำหรับความก้าวหน้าและพัฒนาการในขั้นที่สมบูรณ์กว่า วันใหม่ที่มีสีสันแห่งพระผู้เป็นเจ้าร่วมอยู่ด้วย ดังนั้นมนุษยชาติทั้งมวลล้วนมีความหวังและกำลังรอคอย โดยรวมแล้วมนุษยชาติต่างดำเนินชีวิตอยู่ในการรอคอยและมีความหวังต่อข้อเท็จจริงประการหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ มิใช่เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นด้วยมือของเขา แต่ทว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติและโลกแห่งความเร้นลับ!
บนพื้นฐานดังกล่าวนี้ มนุษย์ไม่ว่าจะด้วยแรงบันดาลใจใดๆ ก็ตาม เขากำลังดำเนินชีวิตด้วยการมุ่งแสวงหาประตูแห่งความหวังที่จะเปิดสู่อนาคตที่ดีกว่าของเขา อนาคตที่จะบรรลุสู่ความหวังและอุดมคติดังกล่าวนี้ถูกวาดภาพขึ้นในมโนคติของพวกเขา มันได้ผลักดันพวกเขาให้ดำเนินไปสู่วันพรุ่งนี้ที่สดใสกว่าวันนี้ ดังนั้นมนุษยชาติคือผู้รอคอย รอคอยอนาคตใหม่ที่สดใส ที่ห่างไกลจากความอยุติธรรมและไร้ซึ่งความสมบูรณ์และความบกพร่องต่างๆ กล่าวโดยสรุปคือ พวกเขากำลังรอคอยอนาคตที่มวลมนุษย์จะหันกลับมาสู่พระผู้เป็นเจ้าอย่างสมบูรณ์นั่นเอง
การบรรลุความหวังของมนุษยชาติ
ใครหรือที่จะสามารถทำให้ความหวังและอุดมคตินี้ของมนุษยชาติบรรลุความเป็นจริงขึ้นมาได้? และมนุษยชาติจะต้องรอคอยบุคลใดหรือสิ่งใดหรือ?! ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามนุษย์นั้นอยู่ในการรอคอยบุคคลหนึ่งซึ่งจะนำวันใหม่ที่สดใสและเต็มไปด้วยความหวังมาเป็นของฝากสำหรับพวกเขา ผู้ที่จะมาปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงในยุคสุดท้ายของมนุษยชาติ คือผู้ซึ่งจะมาทำให้ความไร้ซึ่งความยุติธรรมและความขมขื่นต่างๆ เข้ารูปเข้ารอย จะทำลายปัจจัยแห่งความบกพร่องและอุปสรรคของการพัฒนาสู่ความสมบูรณ์ทั้งมวลให้หมดไป จะทำหน้าที่ชี้แนะและจัดเตรียมแนวทางต่างๆ ของการพัฒนาสู่ความสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง เพื่อที่ทุกคนจะได้ไปถึงยังสิ่งดังกล่าวได้ เขาคือผู้ที่จะสนองตอบสภาพความไม่พึงพอใจอันศักดิ์สิทธิ์ของมนุษยชาติ นั้นคือผู้ที่เรียกตนเองว่า “บะกียะตุ้ลลอฮ์” (ผู้ที่คงเหลืออยู่ของพระผู้เป็นเจ้า)
ด้วยเหตุนี้เอง ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) คือ ผู้ที่จะสามารถจะทำให้ความหวังของมนุษยชาติที่มีต่ออนาคตอันสดใสแห่งประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติบรรลุสู่ความเป็นจริงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าพวกเขาจะรอคอยสิ่งดังกล่าวด้วยแรงบันดาลใจใดๆ ก็ตาม
ขอขอบคุณเว็บไซต์ islamicstudiesth