บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน) ตอนที่ 2
  • ชื่อ: บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน) ตอนที่ 2
  • นักเขียน:
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 14:23:2 3-9-1403

บันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับอังกฤษในดินแดนอิสลาม (ออตโตมาน) ตอนที่ 2


ในบันทึกความทรงจำนี้ของเขา
แฮมเฟอร์อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับจุดอ่อนของโลกมุสลิม และพร้อมกับเปิดเผยความตึงเครียดระหว่างซุนนีและชีอะฮ์เขายังอธิบายการก่อตัวของขบวนการเคลื่อนไหวใหม่ซึ่งต่อมากลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ชาววะฮาบี” (Wahhabism)
 หนึ่งในคำสารภาพที่สำคัญที่สุดของแฮมเฟอร์ ก็คือคณะรัฐมนตรีของจักรวรรดิอังกฤษกำลังติดตามพัฒนาการทางการเมืองในโลกมุสลิมอย่างใกล้ชิด เพื่อว่าพวกเขาได้จัดตั้ง “หน่วยงาน” ขึ้นมาติดตามสถานการณ์และคาดการณ์แนวโน้มใหม่ ๆ
 บทบาทที่น่าตกใจที่สุดของหน่วยนี้คือการแต่งตั้งบุคคลเพื่อที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่เป็นเสมือนเงาในราชสำนักของสุลต่านออตโตมัน และสำนักผู้นำทางศาสนา “มหามุฟตี” (Grand Mufti) รวมทั้งในราชสำนักซาฟาวิด มหาเสนาบดี และผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวชีอะฮ์ ตามบันทึกของ มร.แฮมเฟอร์ สายลับได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษเพื่อปลอมตัวเป็นตัวแทนของบุคคลเหล่านี้ ร่วมกับการเป็นที่ปรึกษาและอาลักษณ์ พวกเขาจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภูมิภาคที่ตนได้รับมอบหมาย
 ในบันทึกความทรงจำแฮมเฟอร์ กล่าวว่าหน่วยงานเหล่านี้สามารถทำนายแนวโน้มและผลสะท้อนในโลกมุสลิมได้อย่างถูกต้องโดยมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
 ในขณะที่อยู่ในเมืองนะญัฟ (Najaf) ประเทศอิรัก แฮมเฟอร์วางตัวเป็นนักเรียนศาสนา มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาจำได้ว่าได้เผชิญหน้ากับพวกสายลับคนหนึ่งของพวกเขา ซึ่งวางตัวเป็นนักการศาสนาของชาวชีอะฮ์ แต่ในเวลานั้นแฮมเฟอร์ไม่ทราบว่านักการศาสนาคนนี้เป็นสายลับเหมือนกับตนเอง
 แฮมเฟอร์ได้ถามนักการศาสนาปลอมคนนี้ว่า การต่อต้านรัฐบาลซุนนีเป็นสิ่งที่อนุญาตหรือไม่? นักการศาสนาคนนี้ตอบว่า ไม่ใช่เหตุผลอันสมควรที่จะกบฏต่อรัฐบาลเพียงเพราะเป็นชาวซุนนี มุสลิมทุกคนเป็นพี่น้องกัน และจะได้รับอนุญาตเพียงสถานเดียวก็ต่อเมื่อรัฐบาลซุนนีทำให้มุสลิมถูกกดขี่และเผชิญการทารุณกรรม ซึ่งเป็นไปตามหลักการอิสลามในเรื่องกำชับความดีและห้ามปรามสิ่งชั่วร้าย
 แฮมเฟอร์รู้สึกตะลึงเมื่อพบภายหลังว่านักวิชาการปลอมคนนี้เป็นสายลับจริงๆ ในขณะที่ตัวเขาเองเชื่ออย่างจริงจังว่าเขากำลังพูดคุยกับนักวิชาการชาวชีอะฮ์จริงๆ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกภาคภูมิใจที่สายลับคนอื่นๆ ที่สามารถแสดงออกถึงศักยภาพที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
(2)...........
โปรดติดตามตอนต่อไป